เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องนายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ผู้ต้องหาฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิด ฐานฟอกเงินเพราะเหตุได้มีการสมคบกัน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ตามความเห็นแย้งของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินจากการขายที่ดินต่อให้กับ นายอนันต์ อัศวโภคิน ที่มีการ ออกเอกสารข่าวชี้ขาดสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา
ซึ่งสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 โดยพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบดำเนินคดีได้นัดหมายนายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ต้องหา มาพบพนักงานอัยการ เพื่อส่งฟ้องศาลในวันที่ 2 เม.ย.2567 นายอนันต์ ไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานอัยการขอเลื่อนการส่งตัวออกไปก่อน โดยอ้างเหตุผลอาการเจ็บป่วย พร้อมแสดงใบรองรับแพทย์ยืนยัน พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 ได้ให้เลื่อนการส่งตัวฟ้องดังกล่าวเป็นวันที่ 24 พ.ค. เเละเลื่อนอีกครั้ง 24 มิ.ย. โดยให้เหตุผลทางการเจ็บป่วยเข่นเดิม
เหตุจากการตรวจสอบ พบว่าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองคดีฟอกเงินทางอาญาได้ตรวจสอบอาการเจ็บป่วยของนายอนันต์โดยเรียกแพทย์หญิง ผู้ทำการรักษาให้ถ้อยคำชี้แจงเกี่ยวกับการรักษาอาการเจ็บป่วย พบว่ามีภาวะไตวายระยะสุดท้าย ได้รับการเปลี่ยนแปลงไตที่ประเทศออสเตรเลียพบความเสียหายของไตจนทำงานไม่ได้เรียกว่าภาวะสลัดไต ส่งผลให้ต้องกลับมาฟอกเลือดล้างไตอีกครั้ง เมื่อไตเสียหายขั้นสุดท้ายกลายเป็นไตวายระยะ สุดท้ายอย่างถาวร ต้องฟอกเลือดใหม่สามครั้งต่อหนึ่งสัปดาห์ต่อไปตลอดชีวิตจนกว่าจะปลูกถ่ายไตครั้งที่สองอีกครั้งขณะนี้ยังไม่สามารถเปลี่ยนไตใหม่ได้ เนื่องจากร่างกายมีภาวะแทรกซ้อนที่อวัยวะสำคัญคือภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เลือดออกในสมองและไม่มีภาวะภูมิคุ้มกันสภาพ ร่างกายไม่ควรที่จะเคลื่อนย้ายออกจากสถานที่ปลอดเชื้อในขณะที่ยังมีอาการป่วยเช่นนี้เนื่องจากทำให้ติดเชื้อ และเสียชีวิตได้จึงไม่ควรนำตัวนายอนันต์ไปจากการดูแลรักษาของแพทย์เฉพาะทางและร่างกายของผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยพร้อมที่จะรักษาชีวิตผู้ป่วยได้ จนกว่าผ่าตัดปลูกถ่ายเปลี่ยนไตใหม่จะเรียบร้อยและไม่เกิดภาวะสลัดไตอีก ยังถือว่าเป็นผู้ป่วยวิกฤติมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ตลอดเวลา หากอยู่ในสถานที่ไม่เหมาะสมแก่การดูแลรักษาดังกล่าว โดยเเพทย์หญิงคนดังกล่าวได้ให้การไว้เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ก่อนส่งเรื่องมายังอัยการคดีพิเศษ 4 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา ในเรื่องการนัดตัวส่งฟ้อง
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า เเนวทางของพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนนั้น ให้พนักงานสอบสวน ไปตรวจสอบ ว่า นายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ต้องหามีอาการเจ็บป่วยจริงหรือไม่ เเละให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำแพทย์เพิ่มเติมว่า หากมีกรณีที่จะต้องยื่นฟ้องนายอนันต์ผู้ป่วยต่อศาลอาญา การนำตัวมาฟ้องต่อศาล จะกระทบหรือ เสี่ยง ต่อ อาการป่วยในระดับใดเพราะเหตุใด เเละแพทย์มีคำแนะนำอย่างไร
อย่างไรก็ตามก็ต้องติดตามดูว่าทางอัยการจะมีการเเถลงข่าวเรื่องนี้ต่อไปหรือไม่