นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรสัปดาห์นี้ ส่วนใหญ่ทรงตัวเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน โดยข้าวหอมมะลิราคา 15,750 บาทต่อตัน ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ราคา 15,550 บาทต่อตัน ข้าวหอมปทุมธานี 15,350 บาทต่อตัน ข้าวเจ้า 11,450 บาทต่อตัน ข้าวเหนียวเมล็ดยาว 13,900 บาทต่อตัน ส่วนมันสำปะหลัง ราคา 2.95 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (ความชื้น 14.5%) ราคาอยู่ที่ 11.38 บาทต่อกก. ปาล์มน้ำมันราคาอยู่ที่ 6 บาทต่อกก. เนื้อสัตว์มีทั้งที่ทรงตัวและบางรายการราคาปรับลดลง โดยหมูเนื้อแดงสัปดาห์นี้ เฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 135.81 บาท ไก่เนื้อน่องติดสะโพก เฉลี่ย กก.ละ 81.94 บาท เนื้อน่องเฉลี่ย กก.ละ 85.06 บาท เนื้อสะโพกเฉลี่ย กก.ละ 85.94 บาท และเนื้ออกเฉลี่ย กก.ละ 85.81 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 4.25 บาท ใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับสัตว์น้ำ ราคาทรงตัว โดยปลานิล กก.ละ 72 บาท ปลาทับทิม 105 บาท ปลาดุก 75.80 บาท กุ้งขาว (70 ตัว/กก.) กก.ละ 187 บาท ผักส่วนใหญ่ราคาปรับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากสภาพอากาศมีฝนตกชุกในแหล่งผลิต ทำให้ผักใบคุณภาพดีเข้าสู่ตลาดลดลง โดยผักคะน้า กก.ละ 35.90 บาท ถั่วฝักยาว กก.ละ 48 บาท กะหล่ำปลี กก.ละ 31.10 บาท กวางตุ้ง กก.ละ 29 บาท ผักกาดขาว กก.ละ 34 บาท ผักบุ้งจีน กก.ละ 31 บาท ต้นหอม กก.ละ 93.40 บาท ผักชี กก.ละ 108 บาท พริกขี้หนูจินดา 76.10 บาท ส่วนมะนาว (เบอร์ 1-2) อยู่ที่ 3.10 บาท

ส่วนสถานการณ์ผลไม้ ราคาตลาดส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยผลไม้ภาคตะวันออกใกล้หมดแล้ว ทุเรียนและมังคุด ออกหมดแล้ว เงาะโรงเรียน ออกแล้ว 99% เกรดส่งออก กก.ละ 41.50 บาท เพิ่ม 19% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 35 บาท เกรดในประเทศ กก.ละ 38.50 บาท เพิ่มจาก 38% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 28 บาท เงาะพันธุ์สีทองเกรดส่งออก กก.ละ 31.50 บาท เพิ่มขึ้น 37% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 23 บาท และเกรดในประเทศ กก.ละ 28.50 บาท เพิ่ม 58% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 18 บาท ลองกอง ออกแล้ว 71% เบอร์ 1 กก.ละ 75 บาท ราคาเท่ากันกับปีก่อน เบอร์ 2 กก.ละ 55 บาท เพิ่มขึ้น 6% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 52 บาท และเบอร์ 3 กก.ละ 51 บาท เพิ่มขึ้น 2% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 50 บาท

ทางด้านผลไม้ภาคใต้ ขณะนี้กำลังออกสู่ตลาด โดยทุเรียนภาคใต้ ออกแล้ว 40% ทุเรียนเกรดส่งออกหรือเกรด AB กก.ละ 167.50 บาท เพิ่มขึ้น 40% จากราคาปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 120 บาท เกรดส่งออกรองหรือเกรด C กก.ละ 112.50 บาท เพิ่ม 7% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 105 บาท และเกรด D กก.ละ 100 บาท เพิ่ม 4% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 96 บาท มังคุดใต้ ออกแล้ว 17% โดยเกรดส่งออกหรือมันรวม กก.ละ 93.14 บาท เพิ่ม 152% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 73 บาท เกรดส่งออกรองหรือเกรดกากลาย กก.ละ 43.41 บาท เพิ่ม 45% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 50 บาท เกรดคละ กก.ละ 42.50 บาท เพิ่ม 70% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 34 บาท และเงาะโรงเรียนเกรดในประเทศ กก.ละ 42.50 บาท เพิ่ม 47% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 29 บาท เงาะพันธุ์สีทองเกรดในประเทศ กก.ละ 30 บาท เพิ่ม 25% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 24 บาท

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดจัดกิจกรรม “Thai Fruit Festival 2024 by MOC” รณรงค์ให้บริโภคผลไม้ไทย ให้ผลไม้ไทยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้ชิม ช้อปผลไม้สดส่งตรงจากสวนเกษตรกร ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กรมการค้าภายในร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาคเอกชน เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ต่าง ๆ วางแผนร่วมกันบริหารจัดการราคาผลไม้ภาคใต้ให้ได้ราคาดีและไม่ตกต่ำ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวน จากผลกระทบผลไม้ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงนี้ถึงคิวผลไม้ภาคใต้อย่าง ทุเรียน มังคุด ลองกอง และลำไยจากภาคเหนือ รวมผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป คาดว่าจะช่วยให้เกษตรกรขายผลไม้ได้ราคาดีตลอดฤดูกาล ทั้งนี้มีกำหนดจัดงานวันที่ 2 ส.ค. 67 ณ สถานีโทรทัศน์ Thai PBS, 5-11 ส.ค. 67 ณ ห้างโรบินสัน ศรีสมาน, 8-12 ส.ค. 67 ณ ห้างเซ็นทรัลเวสต์เกต, 12-18 ส.ค. 67 ณ ห้างโรบินสัน ลาดกระบัง, 19-25 ส.ค. 67 ณ ห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ห้างโรบินสันราชพฤกษ์ และห้างโรบินสันสมุทรปราการ ส่วนการจำหน่ายผลไม้ผ่านขนส่งไปรษณีย์ ประชาชนสามารถไปรับกล่องผลไม้ได้ที่พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด และจัดส่งฟรีได้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 67 เป็นต้นไป