สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ว่ากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเผยแพร่แถลงการณ์ ของนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ ว่า “มีหลักฐานบ่งชี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น” สำหรับสหรัฐ และเหนือสิ่งอื่นใดคือสำหรับชาวเวเนซุเอลา ว่าผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา คือนายเอ็ดมุนโด กอนซาเลซ อูร์รูเตีย อดีตนักการทูตวัย 74 ปี ผู้สมัครอิสระ ซึ่งได้รับความสนับสนุนจากฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา


ทั้งนี้ สหรัฐแสดงความยินดีกับกอนซาเลซ โดยใช้คำว่า “แคมเปญหาเสียงที่ประสบความสำเร็จ” ขณะที่บราซิล โคลอมเบีย และเม็กซิโก เป็นสามประเทศล่าสุดในลาตินอเมริกา ซึ่งร่วมเรียกร้องกับสหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งของเวเนซุเอลา เปิดเผยผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ

นายเอ็ดมุนโด กอนซาเลซ อูร์รูเตีย ปราศรัยท่ามกลางมวลชนฝ่ายสนับสนุน ในกรุงการากัส ประเทศเวเนซุเอลา


อนึ่ง คณะกรรมการการเลือกตั้งเวเนซุเอลารับรองว่า ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร วัย 61 ปี ซึ่งอยู่ในตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2556 ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุน 51.2% รักษาตำแหน่งผู้นำเวเนซุเอลาเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน และจะยังคงอยู่ในตำแหน่งต่ออีก 6 ปี หรือจนถึงปี 2573 ส่วนกอนซาเลซได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 44.2%


อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านยืนกรานว่า จากผลการนับคะแนน “ที่แท้จริง” ซึ่งเกิดขึ้นไปแล้วมากกว่า 90% กอนซาเลซได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนมากกว่าครึ่ง ด้านมาดูโรประณามการเคลื่อนไหวของฝ่ายค้าน “เป็นการโจมตีกระบวนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย” และยืนยันพร้อมเปิดเผยผลคะแนนเลือกตั้ง “อย่างละเอียด 100%” แต่ไม่ได้ระบุช่วงเวลาชัดเจน.

เครดิตภาพ : AFP