นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย นายฮิกุจิ เคอิจิ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดงานสายสัมพันธ์มิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น ประจำปี 2567 โดยมีนายณรงค์พัชญ์ นาคทรัพย์ นายอำเภอขุนยวม และนายจำลอง จิโนเป็ง นายกเทศมนตรีตำบลขุนยวม นำหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และนักท่องเที่ยวร่วมงานจำนวนมาก  ณ อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน       

โดยงานสายสัมพันธ์มิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น อำเภอขุนยวม  เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอขุนยวม เทศบาลตำบลขุนยวม จึงกำหนดจัดงาน สายสัมพันธ์มิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น อำเภอขุนยวม ขึ้นในระหว่างวันที่ 1–3 สิงหาคม 2567 พร้อมกันนี้ได้มีการส่งมอบรถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์และรถกู้ภัยฉุกเฉิน ตามโครงการจัดหารถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์ เทศบาลตำบลขุนยวม อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน และโครงการจัดหารถกู้ภัยฉุกเฉิน ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากรัฐบาลญี่ปุ่น ผ่านโครงการความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (โครงการคุซะโนะเนะ) จำนวน 2 คัน

นอกจากนี้มีกิจกรรม การแสดงมินิคอนเสิร์ต  ศิลปินล้านนา, ศิลปินชาติพันธุ์  การแสดงศิลปวัฒนธรรมของชุมชน/โรงเรียน การแสดงนิทรรศการ ศิลปวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การจำหน่ายอาหารพื้นบ้าน  และ การแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้า OTOP ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน  

สำหรับอำเภอขุนยวม เป็นอำเภอเล็ก ๆ อำเภอหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งนอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่รู้จักคือ ทุ่งบัวตองบนดอยแม่อูคอแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของอำเภอขุนยวมอีกแห่งหนึ่งได้แก่ “อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น” อำเภอขุนยวม เป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ทางด้านความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นมายาวนานตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เทศบาลตำบลขุนยวม จึงร่วมกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดให้มีการก่อสร้างอนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น แห่งนี้ขึ้นอย่างเป็นทางการและจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงและสร้างให้อนุสรณ์สถานฯ แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวถาวร และยั่งยืนที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของอำเภอขุนยวม และจังหวัดแม่ฮ่องสอน อนุสรณ์สถานฯ แห่งนี้ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวไม่มีสถานที่ใดเหมือน เพราะเป็นการรำลึกถึงทหารญี่ปุ่นที่เดินทางมาตั้งค่ายพักแรมอยู่ที่ขุนยวมในระยะเวลายาวนาน โดยตลอดช่วงเวลานั้นไม่มีภาพความโหดร้ายของสงคราม หรือภาพการสู้รบ แต่เป็นภาพแห่งความผูกพันและมิตรภาพระหว่างกันของสองชนชาติที่ประสบชะตากรรมร่วมกัน จนกลายเป็นความผูกพันแน่นแฟ้น ซึ่งความผูกพันและมิตรภาพนั้นยังคงมีมาสืบเนื่องตราบเท่าทุกวันนี้