เมื่อวันที่ 31 ก.ค. พ.ต.อ อิษฎ์ บุญญะฤทธิ์ ผกก.สภ.ห้วยแถลง สั่งการให้ พ.ต.ท.ปุณญพงศ์ เลิศมัลลิกาพร รอง ผกก.ป.สภ.ห้วยแถลง นำกำลังชุดสืบสวนเข้าจับกุมตัว นายบอย (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี หลังก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราหลานสาววัย 14 ปี ต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 3 ปี ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ภายหลังจากคณะครูของโรงเรียนได้พาเด็กหญิงเข้าพบกับ นายอดุลย์ มูลหา ปลัดอาวุโสอำเภอห้วยแถลง เพื่อแจ้งเหตุและหาแนวทางให้ช่วยเหลือ

นายอดุลย์ เปิดเผยว่า จากการสอบถาม ด.ญ.เอ (นามสมมุติ )วัย 14 ปี เบื้องต้นทราบว่า เด็กอาศัยอยู่กับผู้ที่มีศักดิ์เป็นปู่มานานเป็นเวลากว่า 3 ปี หลังจากแม่เสียชีวิต ส่วนพ่อก็ได้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ จึงฝากเด็กหญิงให้มาอยู่ในการดูแลที่บ้านของปู่ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่บ้านหลังดังกล่าว เด็กหญิงถูกผู้ที่เรียกว่าปู่กระทำชำเราเกือบทุกวัน ทั้งก่อนไปโรงเรียนและหลังจากกลับจากโรงเรียน จนกระทั่งบางครั้งปวดท้องไม่สามารถไปโรงเรียนได้

ที่ผ่านมาญาติและชาวบ้านรอบข้างก็ต่างทราบเรื่อง แต่ไม่มีใครกล้ายื่นมือให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นผู้กว้างขวางในชุมชน ที่ผ่านมาเคยแจ้งครูที่โรงเรียนเดิมและผู้ใหญ่บ้าน แต่ก็ไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ แต่กลับมีการแก้ปัญหาโดยการให้เด็กย้ายโรงเรียนใหม่ ทำให้เด็กเกิดความเครียดพยายามจะกรีดแขนทำร้ายตัวเอง ก่อนที่สุดท้ายตัดสินใจเข้าไปกอดครูร้องไห้ให้ช่วยเหลือ พร้อมทั้งเล่าความจริงให้ฟังว่า “หนูไม่ไหวแล้ว”

ด้าน พ.ต.อ.อิษฎ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจากทางคณะครูและฝ่ายปกครองอำเภอห้วยแถลง ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ แต่เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยยังคงให้การปฏิเสธ แต่จากการสืบสวนพบว่าในคดีนี้พยานหลักฐานค่อนข้างแน่นหนา โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้ต้องสงสัยแล้วเสร็จ พร้อมส่งฟ้องศาลจังหวัดพิมายในข้อหาข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ที่อยู่ในความปกครองโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กไม่สามารถใช้กำลังขัดขืนได้ ข้อหาข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยไม่ใช่ภรรยาของตน และข้อกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูง รวมถึงผู้ก่อเหตุและญาติของผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมข่มขู่ คุกคามผู้เสียหาย และผู้ให้การช่วยเหลือ โดยในขณะนี้เด็กหญิงผู้เสียหายได้รับการประสานความช่วยเหลือจาก กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นครราชสีมา และมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ในการให้ความช่วยเหลือทางด้านคดีและเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กหญิงแล้ว.