มะเร็งผิวหนังเป็นโรคมะเร็งที่พบได้ทั่วโลกสูงเป็นอันดับที่ 17 จากสถิติประจำปี 2565 มีผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนังทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 331,722 คน โดย 3 ประเทศแรกที่มีผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนังสูงสุดคือสหรัฐอเมริกา, เยอรมนีและอังกฤษ

เมื่อกล่าวถึงการรักษาโรคมะเร็งไม่ว่าประเภทใด แพทย์จะเน้นย้ำเรื่องของการตรวจคัดกรองแต่เนิ่น ๆ ว่ามีความสำคัญมาก โฆษกของบริษัทยูเซย์คอมแพร์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันชีวิตและสุขภาพชื่อดังของอังกฤษชี้ว่า การตรวจคัดกรองมะเร็งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้การรักษาได้ผลดีและป้องกันการลุกลามของเซลล์มะเร็งได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำวิธีสังเกตอาการที่ผิดปกติของบางอวัยวะที่ดูเหมือนไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเราอาจมีเซลล์มะเร็งอยู่ในร่างกาย ซึ่งมีอยู่ 3 จุดด้วยกัน

จุดแรกได้แก่ติ่งเนื้อที่ไม่มีสี ปกติแล้ว ไฝหรือติ่งเนื้อคือสิ่งที่รู้กันดีว่าอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง แต่คนมักเข้าใจว่าจะต้องเป็นไฝหรือติ่งเนื้อที่มีสีเข้มกว่าผิวหนังอย่างเห็นได้ชัด และมีรูปร่างที่ดูน่ากลัว ทั้งที่ความจริงแล้ว ติ่งเนื้อที่ไม่มีสีก็อาจเป็นอันตรายได้เช่นกัน

ติ่งเนื้อไร้สีอาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นของโรคมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมา (Melanoma) จึงควรหมั่นสังเกตติ่งเนื้อประเภทนี้เอาไว้ด้วย หากมีติ่งเนื้อหรือไฝงอกขึ้นมาใหม่และทำให้รู้สึกกังวล ก็ควรไปพบแพทย์

จุดสังเกตที่ 2 คือลักษณะของริมฝีปากที่แตกระแหง ปกติแล้วคนเรามักมีอาการริมฝีปากแตก แห้ง เป็นครั้งคราว เนื่องจากสภาพอากาศหรือการขาดน้ำ แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่มีอาการปากแห้งแบบแก้ไม่หาย ไม่ว่าจะใช้ครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นมากแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้ นั่นอาจเป็นอาการของริมฝีปากอักเสบจากการกระตุ้นของรังสียูวี ซึ่งเป็นรอยโรคที่สามารถเปลี่ยนไปเป็นมะเร็งช่องปากหรือมะเร็งผิวหนังสเควมัสเซลล์ (Squamous Cell Carcinoma) ได้ 

ริมฝีปากแตกที่อันตรายแบบนี้มักมาพร้อมอาการผิดสังเกตอื่น ๆ เช่น สีผิวของริมฝีปากเปลี่ยนแปลง, มีแผลที่ปากซึ่งไม่ยอมหายไปง่าย ๆ 

จุดสังเกตที่ 3 คือเล็บที่เปลี่ยนสี โดยรูปแบบที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือเล็บที่มีเส้นหรือแถบสีคล้ำพาดในแนวดิ่งจากฐานเล็บจนถึงปลายเล็บ 

เส้นหรือแถบในลักษณะนี้เรียกว่า Melanonychia หรือแถบสีน้ำตาลบนเล็บ ถือว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกเบื้องต้นของโรคมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมา นอกจากนี้ยังควรสังเกตความผิดปกติอื่น ๆ ของเล็บร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นสีหรือพื้นผิวของเล็บว่าผิดแปลกไป มีรอยแตกหรือทำให้เล็บผิดรูปไปหรือไม่

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าหากพบสัญญาณเตือนเหล่านี้บนร่างกาย แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ว่าอาจไม่ใช่อาการบ่งชี้ของโรคมะเร็ง แต่ก็ควรไปพบแพทย์และตรวจร่างกาย ถ้าหากทำได้

ที่มา : ladbible.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES