ร.ต.สุฤทธิ์ ยิ่งกำแหง หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชทีมมวยสากลชาย ทีมชาติไทย ยอมรับว่า จับทางการตัดสินของกรรมการในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ไม่ถูก ว่าจะให้คะแนนมวยสไตล์ไหน

นักชกไทย 8 คน ที่ตกรอบไปแล้วคือ รุ่น 54 กก.หญิง “เฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์, รุ่น 51 กก. ชาย “เหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด, รุ่น 80 กก. ชาย วีระพล จงจอหอ และ รุ่น 60 กก.หญิง “เนย” ธนัญญา สมนึก

ที่เหลือ ใบสน มณีก้อน ขึ้นชกรุ่น 75 กก.หญิง รอบ 16 คน พบ ดาวินา มิเชล เจ้าภาพฝรั่งเศส เจ้าของดีกรีเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลกปี 2022 วันที่ 31 ก.ค. เวลา 22.22 น., วันที่ 1 ส.ค. เวลา 16.16 น. รุ่น 50 กก.หญิง รอบ 16 คน “หวาน” จุฑามาศ รักสัตย์ พบ ซาบินา โบโบคูโลว่า (อุซเบกิสถาน), เวลา 17.04 น. รุ่น 66 กก.หญิง รอบ 16 คน จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง พบ บริกิต เอ็มบับบี (คองโก), เวลา 02.20 น. (เช้าวันที่ 2 ส.ค. 67) รุ่น 63.5 กก. ชาย บรรจง สินศิริ พบ เอริสแลนดี อัลวาเรซ (คิวบา)

ร.ต.สุฤทธิ์ ยิ่งกำแหง หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชทีมมวยสากลชายไทย กล่าวขอโทษพี่น้องชาวไทย สำหรับนักมวยที่ตกรอบ ทีมไทยวางแผนมาดี แต่ตอนนี้ประมาทอะไรไม่ได้เลย เพราะว่ามวยพัฒนาเท่าเทียมกันหมด ที่มาโอลิมปิกก็ไม่ธรรมดา ไม่มีหมู

“ตอนนี้ที่ยังเหลืออยู่ก็ยังมีขวัญและกำลังใจที่ดี ทุกคนมาที่นี่ก็มีการปลุกขวัญและกำลังใจกัน เรามาในโอลิมปิก ครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าเราผ่านจุดนี้ไปได้ จะพลิกอนาคตเรา ก็ปลูกฝังน้องๆ ทุกคน”

เมื่อถามถึงเรื่องการตัดสิน หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชทีมมวยสากลชายไทย เผยว่า การตัดสินยังคาบลูกคาบดอก บางทีจะให้แบบโอลิมปิกสไตล์ หรือให้แบบมวยเดิน ก็ยังวิเคราะห์ไม่ออกเลย ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้

“เราทำมวยมา ให้ต่อยแบบโอลิมปิก สไตล์ แบบบ๊อกเซอร์ ไม่ใช่ไฟต์เตอร์ แต่พอเห็นรูปแบบการให้คะแนนแล้ว เดาใจไม่ถูก เพราะว่าในยุโรปเขาจะมีพันธมิตรกัน พวกกรรมการ สังเกตดูได้เลย ถ้ามวยเหลื่อมๆ กัน ภาษีเขาจะดีกว่า คือมีพรรคพวก”

หัวหน้าโค้ชมวยชายไทย กล่าวด้วยว่า สำหรับคำถามว่า จะปรับสไตล์หรือไม่นั้น ตอนนี้คงปรับอะไรไม่ทัน ถ้าจะปรับต้องปรับตั้งแต่แรก ปรับหน้างานไม่ได้ จะแก้แบบยกเป็นยก มวยต้องปรับตั้งแต่เนิ่นๆ คงให้ชกสไตล์เดิม แต่ต้องเพิ่มหมัดชุด ต้องขยัน และส่วนมากที่ดู กรรมการมักจะให้คะแนนที่หมัดหน้า

“ส่วนเป้าหมายยังเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ต้องดูวันต่อวัน ไปพูดอะไรมากก็ไม่ได้” โค้ชมวยชายไทย กล่าว.