เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำกำลังบุกเข้าจับกุมอัยการรายหนึ่ง มาปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้กลั่นกรอง ภายในห้องทำงาน พร้อมเงินสดของกลางจำนวน 150,000 บาท

หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 84/2567 ลงวันที่ 11 ก.ค. 66 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นพนักงานอัยการเรียก รับ หรือ ยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดย มิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ในตำแหน่งไม่ว่าการนั้น จะชอบหรือมิชอบด้วย หน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้ อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่”

สำหรับการเข้าจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้ต้องหา ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่อัยการ ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้กลั่นกรอง แต่กลับมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์จากผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่ถูกดำเนินคดี ในคดีลักทรัพย์โฉนดที่ดิน โดยอ้างว่า สามารถวิ่งเต้นเคลียร์คดีให้กับผู้เสียหายได้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการจำนวน 200,000 บาท

แต่ด้วยความที่ผู้เสียหายเกรงว่าหากไม่ยอมทำตามจะทำให้ถูกกลั่นแกล้ง เนื่องจากคดีของผู้เสียหาย ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของชั้นอัยการ จึงตัดสินใจยอมจ่ายเงินงวดแรกให้ก่อนจำนวน 5 หมื่นบาท จากนั้นจึงรีบนำเรื่องดังกล่าว เข้าปรึกษากับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จนมีการบูรณาการกำลังร่วมกับทางตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมวางแผนเข้าจับกุมในวันนี้ ซึ่งเป็นวันนัดจ่ายเงินส่วนที่เหลืออีก 150,000 บาท จนนำมาสู่การเข้าจับกุมตัวได้พร้อมเงินของกลางดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมภายในห้องทำงาน

ทั้งนี้ จากการสอบปากคำเบื้องต้น ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งรายละเอียดคืบหน้าหลังจากนี้ ทางทีมข่าวจะมีการรายงานทราบให้เพิ่มเติมอีกครั้งในภายหลัง.