สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ว่า ทำเนียบประธานาธิบดีบราซิลออกแถลงการณ์ ว่าประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำบราซิล สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เกี่ยวกับผลการเลือกตั้งผู้นำเวเนซุเอลา เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ร่วมกันเรียกร้องให้มีการเปิดเผยผลคะแนนเลือกตั้ง “อย่างเป็นทางการ”


ทั้งนี้ ผู้นำบราซิลกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่จะมีการคัดค้านผลการเลือกตั้ง และฝ่ายค้านมีสิทธิร้องเรียน ซึ่งเรื่องนี้แก้ไขได้ด้วยการเผยแพร่ผลการนับคะแนนตั้งแต่ระดับหน่วยเลือกตั้งของแต่ละท้องถิ่น ไปจนถึงการรวมผลคะแนนระดับชาติ

มวลชนฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ชุมนุมกันในกรุงการากัส เมืองหลวงของเวเนซุเอลา


ขณะที่ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์อีกฉบับ เรียกร้องคณะกรรมการการเลือกตั้งเวเนซุเอลา “เปิดเผยผลการนับคะแนนที่โปร่งใสและอย่างละเอียด” และเพื่อบรรเทาความรุนแรงทางการเมือง ซึ่งการประท้วงตั้งแต่วันประกาศผลคะแนนเลือกตั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ราย อย่างไรก็ตาม พันธมิตรของเวเนซุเอลา คือ จีนและรัสเซีย ออกมาแสดงความยินดีกับมาดูโรแล้ว


อนึ่ง คณะกรรมการการเลือกตั้งเวเนซุเอลาประกาศผลอย่างเป็นทางการ ของการเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ซึ่งมีการลงคะแนนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร วัย 61 ปี จากพรรคสหสังคมนิยม ได้รับการเลือกตั้งเข้ามามากที่สุด 51.2% รักษาตำแหน่งผู้นำเวเนซุเอลาเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน หรือนับตั้งแต่ปี 2556 และการชนะเลือกตั้งครั้งนี้ จะทำให้มาดูโรยังคงอยู่ในตำแหน่งต่ออีก 6 ปี หรือจนถึงปี 2573


ด้านคู่แข่งคนสำคัญ คือ นายเอ็ดมุนโด กอนซาเลซ อูร์รูเตีย อดีตนักการทูตวัย 74 ปี ซึ่งลงสมัครในนามอิสระ แต่ได้รับความสนับสนุนจากฝ่ายค้าน ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา 44.2% อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฝ่ายค้านประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยยืนยันว่า กอนซาเลซ อูร์รูเตีย ได้รับเสียงสนับสนุนประมาณ 73% และจะเคลื่อนไหวจนถึงที่สุด.

เครดิตภาพ : AFP