ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ไอคอนยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดานที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ภายใต้สปอร์ตดีเอ็นเอที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ตลอด 11 เจเนอเรชัน ด้วยการอัปลุคดีไซน์ความสปอร์ตพรีเมียม ที่เฉียบคมยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ให้ความรู้สึกเท่ สปอร์ต และทันสมัย ผสานการออกแบบด้วยสีดำและแดง

DCIM\100MEDIA\DJI_0567.JPG

มาพร้อม 3 รุ่นย่อยคือรุ่น e:HEV RS, รุ่น e:HEV EL+ และ รุ่น EL+ กับ 2 ทางเลือกของขุมพลังการขับเคลื่อน ได้แก่ ทั้งระบบขับเคลื่อน ฟูลไฮบริด e:HEV สมรรถนะการขับขี่ที่แรงเร้าใจ ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร ประหยัดด้วยน้ำมัน 1 ถัง ไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร

DCIM\100MEDIA\DJI_0569.JPG

ขุมพลังเทอร์โบ 1.5 ลิตร ขับสนุก แรงเร้าใจ สไตล์สปอร์ต ด้วยกำลังสูงสุด 178 แรงม้า ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบต่อนาที และอัตราการประหยัดน้ำมัน 17.2 กิโลเมตร/ลิตร  มั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ในทุกรุ่นย่อย ยกระดับความสบาย ด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย รองรับการใช้งานในหลากหลายไลฟ์สไตล์

การอัปลุ๊คความสปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ในรุ่น e:HEV RS มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว Matte Black ดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ตรุ่น EL+ เพิ่มขนาดล้ออัลลอยเป็น 17 นิ้ว  ไฟท้าย LED รมดำ เสริมความมีเอกลักษณ์ในตัว สำหรับรุ่น EL+ และ e:HEV EL+ กับสีใหม่! สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก)

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อม เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง Honda SENSING มอบความมั่นใจในทุกการขับขี่ โดยระบบมีการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ อาทิ  เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และหลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS)

ห้องโดยสารกว้างขวาง ภายในสปอร์ตพรีเมียมด้วยโทนสีดำ เบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ทุกรุ่นย่อย และมาพร้อมเทคโนโลยีที่มอบความสะดวกสบายเหนือระดับ ในรุ่น e:HEV RS มาพร้อมเบาะที่นั่งลายใหม่Prime smooth ด้วยวัสดุเบาะหนังกลับและหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง อีกทั้งตกแต่งแผงคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านข้าง สีแดงสไตล์สปอร์ต ช่องปรับอากาศตอนหลัง เบาะที่นั่งด้านหลัง แยกพับแบบ 60:40 ในทุกรุ่นย่อย

พร้อมเชื่อมต่อผู้ขับขี่และรถให้เป็นหนึ่งเดียว ด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย อย่าง Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว ในทุกรุ่นย่อย ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) ช่องเชื่อมต่อ USB Type C จำนวน 4 ช่อง ช่องหน้า 2 ช่องและด้านหลัง 2 ช่อง ในทุกรุ่นย่อย ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Autoแบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง ฮอนด้า คอนเนค เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ในทุกรุ่นย่อย

การออกแบบเน้นคนเป็นศูนย์กลาง สะท้อนถึงความเพลิดเพลินในการขับขี่ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ โดยเฉพาะ ในรุ่น e:HEV RS พิเศษยิ่งขึ้นด้วยดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว พร้อมสัญลักษณ์ RS กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำตกแต่งด้วยโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย ท่อไอเสีย พร้อมปลอกท่อไอเสีย

ภายในห้องโดยสาร ยกระดับความสปอร์ตภายในห้องโดยสาร รุ่น e:HEV RS เบาะที่นั่งลายใหม่ Prime smooth ด้วยวัสดุเบาะหนังกลับและหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง อีกทั้งตกแต่งแผงคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านข้างสีแดงสไตล์สปอร์ตไฟส่องสว่างตกแต่งแผงประตูคู่หน้าและที่เท้า แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต

โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด โดยระบบจะเลือกโหมดการขับขี่ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับระดับ ของแบตเตอรี่ สภาพถนน และพฤติกรรมในการขับขี่ ประกอบด้วยการทำงานของโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ โหมด  EV มอบอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ออกตัวได้อย่างรวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องรอรอบ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง โหมดไฮบริด โดยระบบจะขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว มอบอัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลัง โหมดเครื่องยนต์

และมาพร้อมกับสวิตซ์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามสไตล์ 4 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบ Individual, โหมดการขับขี่แบบประหยัด โหมดการขับขี่แบบปกติ และ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต

สำหรับคนที่ยังชื่นชอบเครื่องยนต์ฮอนด้า ซีวิค จัดให้กับขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT ขับสนุก แรงทุกอัตราเร่ง เร้าใจเต็มอารมณ์สปอร์ต และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 17.2 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85 ด้วย

ฮอนด้าเปิดลงทะเบียนจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของซีวิคใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 22 สิงหาคม 2567 พร้อมรับฟรี! บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท เมื่อจองและรับรถ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2567 – 31 ตุลาคม 2567 โดยจะประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 พร้อมกันทั้งที่งาน Big Motor Sale 2024 สำหรับราคาเบื้องต้น รุ่น e:HEV RS ประมาณการ 1,23X,XXX บาท, รุ่น e:HEV EL+   ประมาณการ 1,09X,XXX บาท, รุ่น EL+ ประมาณการ 1,03X,XXX บาท*** เรียกว่าชอบแบบไหนซีวิคก็มีให้เลือกเช่นกัน.