เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่สิ้นเดือนนี้ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) จะมีการพิจารณาวาระคำร้องอุทธรณ์ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ถูกออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ว่า ส่วนตัวไม่อยากจะไปทำนาย แต่มองว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีจัดการได้ค่อนข้างช้า และเรื่องนี้มี 2 ประเด็น โดยหาก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ บริสุทธิ์ ต้องมองกลับไปที่กระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาว่า ขณะนี้เป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หรือไม่ และความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ทำลายความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมไปเยอะ แต่ถ้าสุดท้าย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มีความเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์จริง ก็ต้องจับตากระบวนการต่อไป ว่ามีใครเกี่ยวข้องหรือไม่ และกระบวนการทั้งหมดชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เว็บพนันเป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลไม่ได้เอาจริงเอาจัง เพราะในขณะที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องการที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยนำเงินใส่ระบบเข้าไปจำนวนมาก ขณะเดียวกันปัญหาเว็บพนัน ก็นำเงินออกจากระบบตัวเลขอาจจะถึงแสนล้าน ซึ่งความมั่งคั่งของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พบว่ามีไม่น้อยอยู่ในกระบวนการตำรวจและเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม อาจจะเกี่ยวข้องกับผู้พิพากษาด้วยซ้ำ และเรื่องนี้ไม่ได้หมายความถึง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เพียงแค่คนเดียว แต่ต้องคิดทั้งระบบ ว่ามีตำรวจหรือข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน ขอย้ำว่าไม่ได้อยากให้จบแค่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ที่ต่อสู้กัน แต่ควรจัดการกับปัญหาคอร์รัปชั่นในระบบราชการทั้งหมด

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับองค์กรตำรวจไปแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าผลการประชุม ก.พ.ค.ตร. จะเป็นอย่างไร ตนไม่คิดว่าจะมีความแตกต่างกัน เพราะจะมีคนสองกลุ่ม ที่จะมองว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง แต่จากการดำเนินการที่ล่าช้า ทำให้เห็นภาพสองนายตำรวจทะเลาะกัน ถือเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด แต่ถ้าจะพูดเฉพาะเรื่องที่ตำรวจเกี่ยวข้องกับเว็บ ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้มีเค้ามูลความจริง และนายกรัฐมนตรีต้องเร่งขยายผล หากมีความประสงค์จะฟื้นฟูองค์กรตำรวจ จำเป็นต้องขับไล่น้ำเสียออกจากองค์กรตำรวจที่มีอยู่จำนวนมาก

ส่วน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ จะได้กลับมารับราชการเหมือนเดิมหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องไปดูข้อกฎหมาย แต่ถ้าให้อ่านใจ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ก็มองว่าสามารถกลับมาได้ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อกฎหมายว่าจะทำได้แค่ไหน แต่ถ้าเรื่องนี้จบแบบเป็นคุณกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ก็จะมีคนอีกจำนวนมาก ที่ต้องรับผิดชอบต่อเรื่องนี้.