นายโทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน ภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า เป็นรางวัลสำหรับผู้จำหน่าย (ดีลเลอร์) ที่ทุ่มเท และมีส่วนร่วมในการส่งมอบบริการด้วยความเป็นเลิศให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆให้มีโอกาสเข้ามาเป็นลูกค้าของนิสสันได้ต่อไป
“ยอมรับว่าการเติบโตได้นั้น ดีลเลอร์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน นิสสันได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ เช่น ระบบดิจิทัลที่ถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้คน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น โดยระบบเหล่านี้จะช่วยมาเสริมศักยภาพของดีลเลอร์ในแง่การปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการได้ดียิ่งขึ้น”
นายโทชิฮิโระ กล่าวอีกว่านิสสันได้จัดงานประชุมผู้จำหน่ายเป็นประจำทุกปี เพื่ออัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์ล่าสุดในตลาด และกลยุทธ์ของนิสสัน รวมถึงการมอบองค์ความรู้ และเทคนิคต่างๆเพื่อให้ผู้จำหน่ายได้นำไปพัฒนา และยกระดับคุณภาพการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับความพึงพอใจสูงสุด พร้อมทั้งเป็นเวทีในการยกย่องผู้จำหน่ายที่มีผลงานยอดเยี่ยม และมีผลการดำเนินงานโดดเด่น ซึ่งจากการคัดเลือกมีผู้จำหน่ายที่ได้คะแนนสูงสุดจากเกณฑ์การประเมินทั้งในด้านคุณภาพการขาย, การบรรลุเป้าหมาย, การให้บริการหลังการขาย, การกลับมาใช้บริการซ้ำของกลุ่มลูกค้า และการนำเสนอแพ็กเกจ SAVE SAFE ซึ่งเป็นบริการหลังการขายให้กับกลุ่มเป้าหมาย
ทางด้าน นายจำรัส ใจกล้า กรรมการผู้จัดการ สยาม นิสสัน เอ.อาร์. จำกัด จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สยามนิสสัน เอ.อาร์. เป็นพันธมิตรกับนิสสันมายาวนานกว่า 30 ปี โดยมีจุดยืนด้านการดำเนินงานที่มีความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสิ่งสำคัญที่สุดคือความพึงพอใจของลูกค้า การช่วยแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้อย่างฉับไว สร้างความมั่นใจในการบริการหลังการขายที่เป็นเลิศ
ขณะที่ นายพิงพันธ์ รัตนะ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สยาม นิสสัน เอ.อาร์.จำกัด กล่าวว่า เป็นดีลเลอร์นิสสันในจังหวัดภูเก็ตมากว่า 30 ปีและมี 2 สาขาให้บริการฐานลูกค้าที่มีความแข็งแกร่งและเชื่อมั่น เพราะเป็นคนในพื้นที่มั่นใจตลาดภูเก็ตซึ่งเป็นกลุ่มที่เปิดกว้างกับแบรนด์ต่างๆ เข้ามาเปิดตลาด แต่สุดท้ายลูกค้าก็เลือกรถยนต์นิสสัน เนื่องจากตอบสนองการใช้งานและราคาเข้าถึงง่าย
ด้วยหลักการบริหารที่เป็นเนเจอร์ของเราที่ตามนิสสัน เอ.อาร์. มี 4 อย่างคือ 1. มีทัศนคติที่ดีในอาชีพและมุ่งมั่นประสบความสำเร็จในธุรกิจที่ทำ ทั้งระดับผู้บริหารและพนักงานทุกคน 2. วงจรการทำงานต้องมีการวางแผน ประชุมล่วงหน้า แล้วลงมือทำตามแผนไม่ว่าแผนนั้นจะมั่นใจหรือไม่มั่นใจก็ต้องลุย 3. ระบบประเมินผลติดตามเคพีไอว่าสิ่งที่ทำนั้นเวิร์กหรือไม่? และ 4. แอคชั่น ต้องกล้าปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไม่ว่าแผนนั้นอาจยกเลิกไม่ทำต่อ จึงเป็นสูตรสำเร็จที่ทำให้นิสสัน เอ.อาร์.ก้าวมาถึงจุดนี้ได้
“จากก่อนเกิดโควิดยอดขายดีจากเดือนละ 50-60 คัน ตอนนี้เหลือ 20 คัน แม้ว่าโควิดคลี่คลายลง แต่ยอดขายยังไม่กลับมาเท่าเดิม เพราะเศรษฐกิจภูเก็ตได้รับกระทบตามกระแส ทำให้คนตัดสินใจซื้อรถช้าลง อีกทั้งมีแบรนด์ใหม่ๆเกิดขึ้นครบทุกแบรนด์ กระแสรถอีวี ก็กระทบเราเช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม เรายังรักษายอดขายน่าพอใจ โดย “นิสสัน คิกส์” สัดส่วนการขายมากถึง 40% รองลงมาเป็น “อัลเมร่า” “นาวาร่า” แต่เราขายได้ทุกโมเดล แม้กระทั่ง “เทอร์ร่า” รถเอสยูวีที่ได้รับการสนับสนุนจากนิสสัน มาจัดกิจกรรมเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ตรง ทั้งที่ไม่เน้นขาย แต่หลังได้ลองขับแล้วพบว่าลูกค้าตัดสินใจซื้อก็มีเยอะ และเราได้ทำสม่ำเสมอสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ปัญหาอยู่ที่สินค้ามีไม่ครบทุกกลุ่ม แต่ลูกค้ายังรอคอยรถไฟฟ้าของนิสสัน รวมทั้งรถคอมแพ็คคาร์ ซิตี้ คาร์ราคาเบาๆ ที่เหมาะกับการใช้งานอย่าง มาร์ช, โน้ต หรือรถราคาต่ำกว่า 4 แสนบาทที่ยังมีโอกาสเติบโต เพราะมีสินค้าไม่มาก
ส่วนการจะกลับมาทำยอดขายระดับ 50-60 คันต่อเดือนเหมือนอดีตได้หรือไม่นั้น ที่สำคัญขึ้นอยู่กับสินค้า ว่ามีรถเข้าไปเสริมมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่ามีรถที่เหมาะกับด้วย เพราะการขยายให้โตในตลาดเดิมๆไม่ใช่ง่าย เพราะมีวอลุ่มเดิมๆ ต้องแข่งขันกัน ดังนั้นเราต้องขยายเซกเมนท์ใหม่ๆ ปัจจุบันบริษัทมี 2 สาขาคือสาขาภูเก็ต อยู่ที่ถนนเทพกระษัตรี และสาขาเจ้าฟ้า มีพนักงานรวมกว่า 70 คน นับเป็นโชว์รูมที่ใหญ่อันดับต้นๆในภูเก็ต มีศูนย์บริการครบวงจร และซ่อมสี
“ที่เราเป็นดีลเลอร์ชนะเลิศในปีนี้ โชคดีที่ทำธุรกิจบนพื้นฐานรถยนต์จริงๆเงื่อนไขที่นิสสันใช้วัดจึงสอดคล้องกับสิ่งที่เราทำ เน้นบิสซิเนสแพลน มั่นใจจะมีตัวใหม่เข้ามาเสริม เราจะโฟกัสทุกตัว มีกิจกรรมแต่ละตัวใกล้เคียงทำได้ดีทุกโมเดล สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าทุกเรื่อง เราตอบสนองได้กระตือรือร้น ดูแลพัฒนาบุคลากรยกระดับให้ดี ให้ความคิดเห็นลูกค้าเป็นเรื่องใหญ่นำมาปรับปรุง สิ่งที่ได้อานิสงค์ลูกค้านำมาซ่อมซ้ำ ลูกค้าอยู่กับเราตลอด ขายได้หรือไม่ได้แต่เราเพิ่มดีกรีมากขึ้น สำหรับรางวัลที่ได้รับครั้งนี้ช่วยสร้างความภาคภูมิใจ สร้างขวัญและกำลังใจของคนทำงานที่อยู่บนพื้นฐานการทำธุรกิจรถยนต์จริง”
นายพิงพันธ์ กล่าวว่า อยากให้นิสสัน มีโปรดักส์ที่หลากลายมากขึ้น เพื่อมีโอกาสขายได้มากขึ้น หากช่วง 1-2 ปีถ้าไม่มีของใหม่ลำบาก เพราะการขายจำเป็น เราต้องหาให้ได้เพื่อมีรถใหม่มาหมุนเวียน นับเป็นการบ้านที่ดีลเลอร์ต้องทำให้ดีที่สุด เราทำธุรกิจมานานก็คิดเยอะ คิดถึงความยั่งยืน ส่วนแผนงานในครึ่งปีหลังนี้จะเจาะกลุ่มอาชีพมากขึ้น เช่น ข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น ให้ได้สัมผัสประสบการณ์กับรถ
ทางด้าน นายวฤทธิ์ ภักดียิ่งยง รองประธานสายงานขาย นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่ารถราคาต่ำกว่า 5 แสนบาทมีผู้เล่นน้อยลง ซึ่งอยู่ในแผนของนิสสัน เพราะเศรษฐกิจไม่ดี คนมีรายได้ 15,000-20,000 บาท ไม่สามารถผ่อนรถได้เกินเดือนละ 6-7 พันบาท ส่วนตลาดรถกระบะมีปัญหามากเพราะกู้ไม่ผ่านเงื่อนไข เวลานี้ได้ลามมายังรถเก๋ง ขณะนี้นิสสันมีโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศ 141 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 36 แห่ง ที่ผ่านมามีไม่เกิน 5 พาร์ทเนอร์ ที่เปลี่ยนไปทำแบรนด์อื่น นับว่าน้อยมาก เช่นเดียวกับพนักงานขายที่ออกไปแล้วกลับมาทำงานที่นิสสัน เอ.อาร์ อีก
