เป็นอีกหนึ่งคนที่ห่างหายจากวงการไปนานพอสมควร สำหรับ “จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” นักแสดงชื่อดัง ที่ก่อนหน้านี้พักการแสดงเพื่อเตรียมพร้อมจะมีลูก แต่ลองทุกวิถีทางแล้วก็ยังไม่ท้อง จนมาพึ่งสายมูก็ยังไม่สำเร็จ ซึ่งจั๊กจั่นเผยว่า “ก่อนหน้านี้ยอมรับกดดันจนเครียด แต่ตอนนี้เริ่มปล่อยวางตามธรรมชาติ ถ้าไม่มี ก็ไม่ซีเรียส อยู่กันสองคนสามีภรรยา เลี้ยงน้องหมาน้องแมวได้”

ล่าสุดสื่อมวลชนได้มีโอกาสเจอ จั๊กจั่น ที่งาน Immersive Disney Animation X The Voice Foundation โดยผู้สื่อข่าวก็เข้าไปสอบถามอัปเดตชีวิตและครอบครัว พร้อมทั้งจะกลับหวนคืนสู่วงการแสดงอีกครั้ง ซึ่งเธอได้เผยกับสื่อว่า

“ตอนนี้ก็กลับมารับงานปกติแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้พยายามที่จะมีน้อง อยู่ในกระบวนการไปหาคุณหมอ แล้วพอเวลาใส่ปุ๊บ เราจะต้องไม่ขยับตัวมาก ไม่ได้ทำอะไรมาก แต่ว่ามันผ่านขั้นตอนนั้นมาแล้ว ยังไม่สำเร็จ ก็พักไว้ก่อน เหมือนเราเครียดมาเยอะว่าจะต้องมีลูกที่เกิดในปีนี้นะ มันค่อนข้างกดดัน ก็เลยรู้สึกว่าตอนนี้ขอใช้ชีวิตสบายๆ ก็พร้อมกลับมารับงานแล้วค่ะ ใครสนใจอยากร่วมงานด้วยก็ติดต่อมาได้เลยนะคะ”

“คิดว่าจะลองปล่อยธรรมชาติ ถ้าจะมาก็มา ไม่มาก็ไม่เป็นไร ก็อยู่ด้วยกันสองคนก็ได้ คุยกันแล้ว เพราะถ้าจะไปหาคุณหมอทางวิทยาศาสตร์ กระตุ้นไข่ ฝากไข่ ฉีดฮอร์โมนอีก จั่นไม่ไหวแล้ว ตอนที่ฉีดฮอร์โมนจั่นมีเอฟเฟกต์เยอะมาก อาจจะมาจากตัวอ่อนที่เราได้เกรดไม่ค่อยดีด้วยค่ะ และก็หลายอย่างค่ะ เขาบอกว่าหลายปัจจัย แต่ตอนที่เทคฮอร์โมนก็จะเวียนหัว อาเจียน ซึ่งถ้าเราทำวิธีการทางวิทยาศาสตร์ มันไม่ใช่ท้องธรรมชาติ ช่วง 3 เดือนแรก จั่นต้องเทคยาไปตลอดคิดว่าร่างกายไม่น่าจะไหว ก็ปล่อยตามธรรมชาติ มาก็มา ไม่มาก็ไม่ซีเรียสแล้วพักแล้วค่ะ เพราะที่ผ่านมาเราแพลนมาตลอด ก็เครียด กดดัน”



“ตอนแรกนอยด์นะคะ ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นอยด์มาก เพราะว่าเราเตรียมพร้อมมาก พอทำแล้วมันไม่ใช่ครั้งเดียว ทำหลายครั้งแล้วมันไม่ใช่ ก็รู้สึกว่าหรือดวงเราจะไม่มี สายมูก็ทำมาทุกอย่างแล้วค่ะ เทพไทย เทพจีน ลงใต้ ไปอีสาน ขึ้นเหนือ อะไรที่ว่าดีเราทำมาหมดแล้ว แต่ว่ามันยังไม่สำเร็จ ถามว่ายังมีความหวังอยู่มั้ย ตอนนี้จริงๆ ไม่อยากคิดอะไร อยากปล่อยสบายๆ มีก็มี ไม่มีก็ไม่เป็นไร สามีก็โอเคค่ะ เคเขาจะเห็นจั่นตอนอยู่ในกระบวนการเทคฮอร์โมนแล้วมีอาการเยอะ แพ้ อาเจียนทุกวัน ก็รู้สึกเวียนหัวด้วย เขาก็บอกว่าโอเคถ้าไม่มีจริงๆ ก็ไม่เป็นไร อยู่กันสองคนก็ได้ เลี้ยงน้องหมาน้องแมวก็ได้”

“ถ้าน้องหมาเขาก็จะรู้ ตอนไหนที่เราร้องไห้ เขาก็จะรู้ก็จะมาอยู่ใกล้ๆ ส่วนน้องแมวจะอินดี้หน่อย อย่างที่เรารู้เรียกก็ไม่มา (หัวเราะ) เราต้องเข้าหาเอง แต่ถ้าถามจั่นก็รักทั้งสองอย่าง มันคนละอารมณ์กัน เรารักเขาเหมือนลูกเลย เลี้ยงเหมือนลูกเลย มีความเชื่อที่ว่าเลี้ยงน้องหมาน้องแมวทำให้ลูกไม่มาเหรอ จั่นว่าไม่เกี่ยวนะ เพราะว่าคนที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมว น้องก็มาตั้งเยอะ แต่มีไปดูดวงค่ะ เขาก็บอกว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะมีน้องมา เขาบอกว่าถึงเวลาก็จะมาเอง จั่นไม่ได้ถามด้วยว่ามาตอนไหนยังไง เพราะที่ผ่านมาพอถามแล้วเหมือนคาดหวังแล้วให้ความหวังกับตัวเองเยอะ ก็ปล่อยให้มาตามธรรมชาติเลย มาก็มา ไม่มาก็อยู่กันสองคนตายาย”