น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า วธ. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์ พ.ศ. …. โดยมีแนวความคิดการให้เสรีภาพแก่บุคคลเพื่อการแสดงออกเป็นพื้นฐานของการพัฒนาและเป็นบ่อเกิดนวัตกรรมในสังคม ซึ่งมีทั้งหมด 7 หมวด 112 มาตรา ซึ่งจะนำมาใช้แทน พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 เพื่อให้มีเนื้อหาสาระที่สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยจะมุ่งเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และลดบทบาทการกำกับดูแลของรัฐลง เพื่อให้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลการประกอบกิจการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ หรือแนวทางการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ดียิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ให้มีศักยภาพที่แข่งขันได้ตลาดโลก และส่งเสริมการสร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักรไทย

น.ส.สุดาวรรณ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ นักวิชาการ และประชาชนทุกภาคส่วน ช่วยกันแสดงความคิดเห็นหรือเสนอแนะต่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการแก้ไขปรุงร่าง พ.ร.บ. ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ จากนั้นจะส่งร่าง พ.ร.บ. ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และส่งให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป ทั้งนี้มีระยะเวลารับฟังความคิดเห็น 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. 2567 โดยสามารถศึกษาสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. ฉบับใหม่ และแสดงความคิดเห็นได้ที่ https://www.law.go.th/listeningDetail?survey_id=NDA5MERHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ= ​