จบแล้ว! สำหรับรายการ VALORANT Challengers 2024: Thailand Ascension Qualifier Series ที่จะมี 4 ทีมสุดท้ายจากโซนไทย มาประชันกันในรอบออฟไลน์ในช่วงวันที่ 26-28 กรกฎาคม 2024 ณ LIVE CORE แบริ่ง 43 โดยทาง Riot Games ร่วมกับ SOOP, Reflex, CuteBoy และ Zowie เป็นผู้ร่วมจัดงาน และนี่ยังเป็นการแข่งขันเพื่อคว้าตั๋วใบเดียวสำหรับการไปแข่งขันต่อในรายการ VALORANT Champions Tour 2024: Ascension Pacific อีกด้วย!

โดยทีมที่เป็นแชมป์ในรายการนี้ คือทีม FULL SENSE ที่เอาชนะ MiTH ไปอย่างดุเดือดด้วยสกอร์ 3-1 ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ของโซนประเทศไทย และได้ไปต่ออย่างที่พวกเขาได้หวังไว้!

หลังจากจบการแข่งขันในครั้งนี้ ทาง เดลินิวส์ออนไลน์ ได้มีโอกาสในการสัมภาษณ์สั้น ๆ แบบเอ็กซ์คลูซีฟ กับทางสองนักแข่งของทีม FULL SENSE อย่าง JohnOlsen (ตาล ชนะวิน นาคเชียร) และ PTC (กิตติกวิน รัตนศุกล) เกี่ยวกับความรู้สึกของพวกเขาในรายการครั้งนี้

โดยเราจะเริ่มจากการสัมภาษณ์ JohnOlsen ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ตัวตึงประจำทีม’ กันก่อน!

Dailynews Online: รบกวนอธิบายความรู้สึกคร่าว ๆ หลังจากได้แชมป์ในรายการนี้ให้เราทราบได้ไหมครับ

JohnOlsen: “การแข่งในครั้งนี้ มันมีความกดดันเข้ามา แต่สุดท้าย พวกเราทุกคนก็โฟกัสหน้าที่ของตัวเอง เพื่อให้ผ่านพ้นไป ถึงแม้ว่าพวกเราจะแพ้ หรือมีสกอร์ตามอยู่ แต่พวกเราก็จะผ่านมันมาได้ เมื่อเราเป็นแชมป์แล้ว ทุกอย่างที่เคยหนักอยู่ในหัวก็โล่งไปหมดเลยครับ”

Dailynews Online: ก่อนหน้านี้ พวกคุณมีผลงานที่ไม่ค่อยน่าพอใจในช่วงระหว่างเส้นทางสู่การเป็นแชมป์ พวกคุณพบและจัดการกับความผิดพลาดกันอย่างไรบ้างครับ

JohnOlsen: “มันมีแน่นอนครับในส่วนของความผิดพลาด แต่เราก็ไม่สามารถไปแก้ไขอดีตได้เลย เราก็แค่ทำหน้าที่ของตัวเอง ในเกม หรือ Round ถัดไป ให้ดียิ่งขึ้น เท่านั้นเองครับ ถ้าเราต้องมานั่งเสียเวลากับอดีต เราก็เสียเวลากับมัน เรามาโฟกัสกับปัจจุบันดีกว่าครับ”

Dailynews Online: แล้วพวกคุณก็มีการนำความผิดพลาดทั้งหมดมาพูดถึงและวิเคราะห์กันอยู่บ้างหรือไม่ครับ

JohnOlsen: “ผมต้องขอยกไว้แบบนี้ครับว่า ในวันแข่ง เราจะไม่คุยกันในด้านข้อผิดพลาดเลย ในเกมที่เราแพ้ไปแล้ว เราจะคุยแต่เรื่องอนาคต สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ถ้าเราแพ้เกมไหน เราก็ไปโฟกัสเกมถัดไปแทน เราจะไม่พูดถึงความผิดพลาด เพราะมันจะชวนให้เก็บมาคิด เราอาจมีการคุยกันอีกทีหลังจบแข่ง แต่จะไม่พูดถึงความผิดพลาดในช่วงระหว่างแข่งกันเลยครับ”

Dailynews Online: รบกวนช่วยยกตัวอย่าง Best Moment ที่คุณจำได้ดีที่สุดให้เราฟังได้ไหมครับ

JohnOlsen: “ตอนที่เป็นแชมป์ช่วง Split 1 และ Split 2 นี่คือที่สุดของเราแล้ว แต่พวกเราก็เต็มที่กับทุก ๆ เกมที่ผ่านมาเลยครับ อาจมีบางเกมที่พวกเราอาจเก็บแผนเพื่อไม่ให้คู่แข่งรู้ว่าเราจะเล่นแบบไหน บางอย่างที่เกิดขึ้น มันไม่สำคัญเท่ากับความตั้งใจที่เป็นแชมป์ในที่สุด”

Dailynews Online: สำหรับรายการ Ascension โซนแปซิฟิกที่พวกคุณจะได้ไปต่อ คิดว่าคุณและทาง FULL SENSE พร้อมมากน้อยแค่ไหนครับ

JohnOlsen: “ในจุดนี้ พวกเราก็ยังมีข้อผิดพลาดมากมายที่ต้องพูดคุยและจัดการกันอยู่ ภายในระยะเวลาประมาณ 1 เดือนกว่า ๆ พวกเราก็จะพยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด อาจมีหลงเหลืออยู่บ้าง แต่จะพยายามไม่ให้มีเลย เป้าหมายของพวกเรา คือการเข้ารอบ Ascension ที่ญี่ปุ่น เพื่อเข้าลีกให้ได้ งานของพวกเรายังไม่จบครับ”

Dailynews Online: ตลอดระยะเวลาการแข่งขัน 3 วันที่ผ่านมา คุณมีอะไรที่ยังค้างคากับสิ่งใดอยู่หรือไม่ครับ

JohnOlsen: “จริง ๆ ก็มีแค่เรื่องความผิดพลาดส่วนบุคคล เพราะทุกคนมีเรื่องที่ผิดพลาด แต่เราก็ไม่สามารถไปบอกได้ว่าใครพลาดอะไร ผมก็เชื่อว่าทุกคนรู้ตัวว่าตัวเองมีเรื่องใดที่ต้องแก้ไข แต่พวกเราก็จะไม่เก็บมาคิด แล้วถ้าปล่อยให้ตัวเองคิดอยู่แต่กับสิ่งเหล่านี้ พวกเราจะไม่สามารถเดินต่อได้”

Dailynews Online: มีเรื่องใดอยากจะฝากถึงตัวเอง และเพื่อนร่วมทีม FULL SENSE บ้างไหมครับ

JohnOlsen: “ผมว่า ทุกคนในทีมเก่งอยู่แล้วครับ อย่างที่ foxz เคยกล่าวไว้ว่าทุกคนมีข้อดีเป็นของตัวเอง ก็ขอให้เอาข้อดีตรงนั้นออกมาใช้ให้ได้มากที่สุด มันไม่มียากสำหรับพวกเรา เพราะทุกคนเก่งจริง และได้มาอยู่ด้วยกัน”

Dailynews Online: แล้วมีเรื่องใดอยากจะฝากถึงแฟนคลับ หรือ Supporter ทั้งหมดบ้างไหมครับ

JohnOlsen: “ผมขอขอบคุณทุกคนครับ ที่เชื่อมั่นใน FULL SENSE มาโดยตลอด ไม่ว่าจะมาจากช่องทางใด พวกเรารับรู้กันดีว่ามีแฟนคลับของทีมคอยซัพพอร์ตพวกเรามาโดยตลอด ขอบคุณมากครับ”

จากการสัมภาษณ์ JohnOlsen ในครั้งนี้ เราสามารถสรุปได้ว่า ตัวเขาเอง รวมถึงเพื่อนร่วมทีม FULL SENSE ให้ความสำคัญกับการโฟกัสในเรื่องของปัจจุบันและอนาคต แล้วปล่อยอดีตทิ้งไปให้เร็วที่สุด แล้วพวกเขาก็ยังมีความเชื่อมั่นต่อกันว่าทุกคน มี ‘ศักยภาพ’ ของตัวเองมากพอ ที่จะเป็นแชมป์ในรายนี้ได้สำเร็จ!

ต่อมา เราจะได้ไปสัมภาษณ์ PTC กันต่อ ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรบ้าง

Dailynews Online: อยากทราบความรู้สึกตั้งแต่ระหว่างไปจนถึงช่วงหลังแข่งว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ

PTC: “ตั้งแต่แมตช์แรกมาครับ พวกเราแบกรับความกดดันไว้กับตัวเองมากเกินไป จนทำให้ทีมตัวเองต้องแพ้ พอเข้าสู่แมตช์ที่ 2 พวกเราทิ้งความกดดันที่หนักอยู่บนบ่าออกไป แล้วก็เริ่มยิงยาวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบ เราแค่ต้องสลัดความกดดันทิ้งไปให้ได้จริง ๆ ครับ”

Dailynews Online: ทาง JohnOlsen เคยกล่าวไว้ให้ทุกคนทิ้งอดีตออกไปเลย แล้วพวกคุณก็ทำแบบนั้นกันมาโดยตลอด ถูกต้องหรือไม่ครับ

PTC: “ใช่ครับ ที่ผ่านมา แม้ว่าพวกเราอาจเคยเป็นแชมป์ในรายการไหนมาก่อน หรือแพ้รายการไหนมา พวกเราก็ต้องโยนมันทิ้งออกไปให้หมด เราทิ้งทุกอย่างไปแล้วมาโฟกัสกับการเอาชนะในเกมปัจจุบันเท่านั้นเองครับ มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเรา ทำให้แรงกดดันตรงนี้หายไปเลยครับ”

Dailynews Online: แล้วด้วยเหตุผลนี้ อะไรจะกลายเป็น ‘แรงกดดัน’ ที่มากที่สุดของทีมพวกคุณครับ

PTC: “น่าจะเป็นเรื่องความคาดหวังในตัวพวกเราเองครับ รวมถึงความคาดหวังของผู้สนับสนุนพวกเรา ที่มีส่วนให้พวกเราเริ่มกดดันตัวเองว่าจะทำผลงานได้ไม่ดี แต่เมื่อถึงเวลาจริง ๆ พวกเราก็จะต้องปล่อยมันออกไปให้ได้”

Dailynews Online: รู้สึกอย่างไรบ้างครับหลังได้แชมป์ในรายการวันนี้

PTC: “อย่างแรกที่สุด คือพวกเราโล่งอกมาก ก่อนหน้านี้พวกเราก็คิดกันในทีมว่าจะผ่านมันไปได้หรือไม่ แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้จริง ๆ แล้วมันก็เป็นสิ่งที่พวกเราควรจะได้แชมป์จริง ๆ เพราะในช่วง Split 1 ไม่มีทีมใดสู้พวกเราได้เลย เหมือนเราสะดุดอยู่กับตัวเองมากกว่าในช่วงที่ผ่านมา”

Dailynews Online: คิดว่าในรายการ Ascension รอบถัดไป พวกคุณอยากเจอทีมไหน และไม่อยากเจอทีมไหนมากที่สุด

PTC: “พวกผมอยากเจอ Sin Prisa Gaming จากเกาหลีมากที่สุดครับ เพราะตอนซ้อมด้วยกัน พวกเขาโหด อยากลองฝีมือกับพวกเขาบนเวทีจริง ๆ ส่วนทีมที่ไม่อยากเจอ ไม่มีเลยครับ เพราะพวกเราก็อยากเจอทีมที่เก่งที่สุด เพื่อจะได้รู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไร ดีกว่าไปเจอพวกเขาในภายหลัง”

Dailynews Online: มีเรื่องอยากจะฝากถึงทีม FULL SENSE บ้างไหมครับ

PTC: “ผมก็เชื่อว่าที่ผ่านมา พวกเราทำงานหนักกันมาโดยตลอด แล้วก็อยากให้จำโมเมนต์ดี ๆ ของรายการนี้ไว้ พวกเราได้บทเรียนเกี่ยวกับความผิดพลาดไปเยอะ แล้วก็เหมือนได้ปลดแอกจากความกดดันกันด้วย ก็ขอให้สู้กันต่อไปครับ”

Dailynews Online: แล้วมีอะไรอยากจะฝากถึงผู้สนับสนุนไหมครับ

PTC: “ผมก็ขอฝากผู้สนับสนุนช่วยกันเชียร์พวกเราต่อไป ในรายการที่โตเกียวด้วยครับ พวกเรา ทีม FULL SENSE จะทำให้ดีที่สุด”

จากการสัมภาษณ์ PTC ในครั้งนี้ เราสามารถสรุปได้ว่า ตัวเขาเอง รวมถึงเพื่อนร่วมทีม FULL SENSE ก็มีแนวคิดในทางเดียวกันว่าจะต้องโฟกัสไปที่การทิ้งอดีต และความกดดันที่ต้องแบกรับออกไปให้หมด เพื่อให้พวกเขาสามารถไต่เต้าไปจนถึงแชมป์ให้ได้ แล้วก็คาดหวังว่าทุกคนจะทำหน้าที่ได้อย่างสุดความสามารถ และเดินหน้าต่อไปได้ด้วยกัน

ทีม FULL SENSE ที่เป็นแชมป์ในรายการ VALORANT Challengers 2024: Thailand Ascension Qualifier Series ในปีนี้ จะได้รับตั๋วในการเข้ารอบไปสู่ VALORANT Champions Tour 2024: Ascension Pacific ในช่วงวันที่ 9-13 กันยายน 2024 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยพวกเขาก็จะได้ไปพบกับสุดยอดทีมจากภูมิภาคแปซิฟิกกันต่อไป เพื่อเข้าสู่ 2025 Pacific League ให้ได้!

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก: FULL SENSE, VALORANT Esports Thailand, SOOP Thailand

เรื่อง: ภาริช ต่อพิมาย (FLINT K.)