เรียกได้ว่าเป็นภาพที่กลายเป็นไวรัลเป็นอย่างมากอยู่ในขณะนี้ หลังเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 67 อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้พูดถึงเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Jessada Denduangboripant ว่า “เอาแบตเตอรี่เข้าลิฟต์ จะเกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและระเบิดได้จริงหรือไม่”

โดย อาจารย์เจษฎา ระบุข้อความว่า เรื่อง “เอาแบตเตอรี่เข้าลิฟต์ จะเกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและระเบิดได้จริงหรือไม่” นั่นเป็นข่าวปลอม ซึ่งมีการแชร์คลิปวิดีโอชายคนหนึ่งหิ้วกล่องสี่เหลี่ยม ดูคล้ายทำจากโลหะเข้ามาในลิฟต์ แล้วกล่องนั้นก็เกิดระเบิดและไฟลุกไหม้ ซึ่งเหมือนชายคนนั้นจะได้รับอันตรายร้ายแรง พร้อมแคปชั่นว่า “หิ้วแบตเตอรี่จักรยานไฟฟ้า เข้าลิฟต์ที่มาเลเซีย มีคนนำแบตเตอรี่อีไบค์ (e-bike) เข้าไปในลิฟต์ เมื่อลิฟต์ปิด การประจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่จะเปลี่ยนเป็นสนามแม่เหล็ก ระวังและแบ่งปันกับครอบครัวและเพื่อน ๆ” เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ที่สนามแม่เหล็กจากลิฟต์ จะทำให้แบตเตอรี่อีไบค์ระเบิดได้จริงหรือ คำตอบคือ “ไม่จริง” และเป็นข่าวปลอมที่เผยแพร่ออนไลน์มาหลายปีแล้วด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วคลิปวิดีโอนี้มาจากประเทศจีน (ไม่ใช่ประเทศมาเลเซีย) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2021 แล้ว โดยถูกบันทึกเมื่อวันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม 2021 ที่เมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ผู้เคราะห์ร้ายนั้นมีนามสกุล “เฉิน” อายุ 28 ปี ไม่ได้เป็นชายวัยกลางคน หรือผู้สูงวัย อย่างที่บางคนแชร์กัน

ต่อมา เรื่องที่น่าเศร้าคือ คุณเฉินได้บาดเจ็บรุนแรงจากแผลไฟไหม้ และเสียชีวิตหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น 28 วัน ซึ่งลิฟต์ก็ไม่ได้สร้างสนามแม่เหล็ก (magnetic field) อย่างที่อ้างกัน แต่จริงๆ แล้ว ลิฟต์ส่วนใหญ่ทำจากโลหะตัวนำ อย่างเช่นเหล็ก และทำตัวเป็นกรงฟาราเดย์ (Faraday cage) ที่กั้นขวางสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเอาไว้ นั่นคือ ทำไมสัญญาณโทรศัพท์มือถือของคุณถึงได้แย่ลง หรือหายไปเมื่ออยู่ในลิฟต์ โดยแบตเตอรี่ลิเทียม ก็ไม่ได้สร้างสนามแม่เหล็กด้วย แบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้า หรืออีไบค์นั้นก็คล้ายกับแบตเตอรี่ในโทรศัพท์มือถือ หรือในยานยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีความจุไฟฟ้าสูง แต่ก็ไม่ได้สามารถสร้างสนามแม่เหล็กขึ้นมาด้วยตัวมันเองได้ ซึ่งเราอาจจะเอาแบตเตอรี่ มาสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (electromagnetic field) ได้ด้วยการทดลองแบบสมัยเรียนฟิสิกส์ ที่เอาลวดทองแดง มาพันเป็นคอยล์รอบตะปูเหล็ก แล้วต่อกับแบตเตอรี่

นอกจากนี้ การขนย้ายแบตเตอรี่รถอีไบค์ในลิฟต์ ไม่ได้ทำให้เกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเช่นนั้น เพราะไม่ได้มีการต่อสายไฟจากแบตเตอรี่ไปที่วัตถุอื่นใด ไม่ได้เกิดสนามแม่เหล็กขึ้นอย่างที่อ้างกัน ถ้าแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสามารถ “ทำปฏิกิริยา” กับลิฟต์ เกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้า จนก่อให้เกิดการระเบิด หรือไฟไหม้ขึ้นได้จริง มันก็คงต้องเคยเกิดกับคนนับล้านคน ที่เอาโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต แล็ปท็อป ที่มีแบตเตอรี่อยู่ ขึ้นลงลิฟต์ในแต่ละวันทั่วโลกไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนนั้น ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุระเบิด ติดไฟลุกไหม้ได้ ถ้าประกอบมาไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน, ชาร์จไฟแรงเกินไป, ถูกความร้อนสูง, ทำตกแตก หรือไฟฟ้าลัดวงจร แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากก็ตาม จึงทำให้สายการบินต่างๆ จำกัดขนาดของพาวเวอร์แบงก์ที่จะนำขึ้นเครื่อง และห้ามโหลดลงใต้ท้องเครื่อง หรือเป็นไปได้ว่า แบตเตอรี่อีไบค์ที่อยู่ในคลิปวิดีโอนั้น อาจจะกำลังร้อนจัด จากการที่คุณเฉินชาร์จไฟแรงเกินไป (หรือเกิด Thermal Runaway ขึ้น) ที่ห้องของเขา ทำให้เขาต้องเอาลงลิฟต์เพื่อจะเอาไปทำให้มันเย็นลง (สังเกตว่า เขากดลิฟต์ลงไปชั้นล่างสุดของอาคาร) และโชคร้ายที่อุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นในลิฟต์ ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด ไม่เช่นนั้นเขาคงจะสามารถโยนแบตเตอรี่ทิ้ง และหนีรอดได้ หรือได้รับบาดเจ็บน้อยกว่านี้