นายธีรภัทร สุขนิมิตร ซีอีโอ Keeree Massage ร้านนวดแผนไทย จ.เพชรบุรี เล่าถึงกิจการ ว่า เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 หรือเป็นเวลา 6 ปีแล้ว โดยในช่วงแรกของการเปิดร้าน ได้ใช้กลยุทธ์เข้าหากลุ่มรถตู้นำเที่ยว เพื่อนำเสนอบริการกับกลุ่มลูกค้าที่มากับกลุ่มทัวร์ แต่พอช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2562 หลังจากที่ร้านปิดบริการได้ไม่ถึงปี ก็ต้องปิดให้บริการชั่วคราวตามมาตรการควบคุมโรงของกระทรวงสาธารณสุข
โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อกลับมาให้บริการอีกครั้งในหลังโควิดคือ กลุ่มลูกค้าต่างชาติและลูกค้าของบริษัทนำเที่ยวหายไปพร้อมกับโควิด ทำให้ปัจจุบันมีลูกค้าต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการเพียง 10% ส่วนใหญ่เป็นคนหัวหน้างานโรงงาน เช่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ทำงานหนักๆเหนื่อยๆ ก็มานวดผ่อนคลาย จากก่อนที่มีสัดส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 80% ทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มทัวร์และนักท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือเอฟไอที ส่วนอีก 90% เป็นลูกค้าคนไทย แยกเป็น คนในพื้นที่ทั้งข้าราชการและคนทั่วไป 70% ส่วนอีก 20% จะเป็นนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ที่เดินทางไปเที่ยวหัวหิน ก็จะแวะนวดที่ร้านซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นเขาวัง ถือเป็นทางผ่านก่อนเดินทางไปยังหัวหินนั่นเอง
ทั้งนี้ท่ามกลางสังคมปัจจุบันที่มีความเครียดจากการทำงาน การใช้ชีวิต รวมไปถึงอาการออฟฟิศซินโดรม ปวดหลัง คอ บ่า ไหล่ เพิ่มมากขึ้น จึงมองว่าคนไทยจะใช้บริการนวดเพื่อผ่อนคลายกันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งลูกค้าที่มานวดที่ร้าน Keeree Massage ก็มักจะมานวดซ้ำอีก หรือบางคนมาทุกสัปดาห์ก็มี และร้าน Keeree Massage ถือเป็นร้านนวดแผนไทยร้านเดียวใน จ.เพชรบุรี ที่ไม่ได้อยู่ในโรงแรม และคุณภาพการให้บริการระดับโรงแรมแถมราคาถูกกว่า เพราะไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่สูงๆ เหมือนร้านในโรงแรม จึงมีความได้เปรียบไม่กลัวว่าจะมีคู่แข่ง เพราะมีจำนวนลูกค้าระดับหนึ่งแล้ว โดยขณะนี้กำลังจะขยายในส่วนให้บริการสปาเพิ่มขึ้นอีก เพื่อขยายการบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
สำหรับอีกหนึ่งจุดขายของร้านคือ ท่านวดที่เป็นมาตรฐานของร้าน Keeree Massage โดยยึดแบบนวดแผนไทย ดังนั้น จึงทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าทุกคนจะได้รับการบริการที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะนวดกับพนักงานคนไหน มาตรฐานจะเท่ากันหมด เพราะใช้ท่าเดียวกัน ส่วนจะให้หนักหรือเบาขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า โดยพนักงานนวดทุกคนมีใบรับรองการผ่านหลักสูตรการนวดแผนไทย จากกระทรวงสาธารณสุข และมาฝึกท่าเฉพาะของทางร้าน ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน และอีกจุดขายคือ การนวดโดยใช้น้ำมันวาตะโพ ผสมกับท่านวดที่ทางร้านคิดขึ้น Massage แถมยังได้รางวัลของดีประจำจังหวัดเพชรบุรี ปี 2564 การันตีคุณภาพอีกด้วย