เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ต่างพูดถึงโพสต์เตือนอุทาหรณ์จาก นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงเพจ “Arak Wongworachat” ระบุว่า “โรคฝีในปอด เป็นโพรงที่มีหนอง จากเชื้อรา เป็นสาเหตุทำให้ ไอเรื้อรัง สุขภาพย่ำแย่ลง” ผู้ป่วยน่าสนใจ อายุ 42 ปีเศษ เพศหญิง ให้ประวัติว่า เมื่อ 20 ปีก่อน เคยรักษาวัณโรค ปอด ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร กินยาต่อเนื่อง กว่าหกเดือน จนร่างกาย แข็งแรงขึ้น กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

เมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา มีอาการไข้ต่ำๆ ช่วงบ่ายๆ และตอนกลางคืน เวลาออกแรง รู้สึกเหนื่อยง่าย ไอแห้งๆ ไม่เป็นเวลา นึกจะไอก็ไอ มีเสมหะบ้างเล็กน้อย บางครั้งไอติดต่อกัน จนรู้สึกเจ็บหน้าอก มีอาการเหนื่อยล้า อ่อนแรง อ่อนเพลีย ความอยากอาหารลดลง ซูบผอมลง ดูแลตนเองด้วยการซื้อยากินเอง หาหมอตามคลินิกส่วนตัวบ้าง จนกระทั่ง อาการย่ำแย่ลง จึงเข้าโรงพยาบาล เอ็กซเรย์ปอด แพทย์บอกว่า ปวดข้างขวาด้านบนเป็นโพรง น่าจะมีการติดเชื้อ จึงแนะนำให้ไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ผู้ป่วยไม่สะดวก จึงขอเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ผู้ป่วยถูกส่งตัวปรึกษา อายุรแพทย์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ หัวใจ ทรวงอก และหลอดเลือด ประเมินภาวะความเจ็บป่วยร่วมกัน เมื่อให้การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การเพาะเชื้อจากเสมหะ สารคัดหลั่ง ทางเดินหายใจ ตรวจสมรรถภาพปอด สุดท้ายแล้วผู้ป่วยควรจะได้รับการผ่าตัด เพื่อตัดเอาปอดด้านขวาบน ส่วนที่เป็นโพรงออก โรคที่เป็น จะหายขาดได้ ศัลยแพทย์จึงได้วางแผนผ่าตัด เพื่อตัดปอดข้างขวา ด้านบน ออกทั้งกลีบ ใช้เทคนิคการผ่าตัด เปิดแผลขนาดเล็ก หลังผ่าตัด ปวดแผลน้อยลง ฟื้นตัวเร็ว

“หลังจากนั้นนำปอดที่ตัดออก ส่งตรวจทางพยาธิวิทยา เมื่อผ่า ชิ้นส่วนเนื้อปอดที่ตัดออกมา ในส่วนที่เป็นโพรง จะมีหนอง ขาวข้น ผสมเนื้อเยื่อชิ้นส่วนเนื้อตาย ของปอด และของเหลวที่สะสม อยู่นาน และมีเซลล์ของเชื้อราอยู่เป็นจำนวนมาก” หลังผ่าตัดผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว ภายในเวลา ห้าวัน สามารถออกจากโรงบาลได้ ติดตามการรักษา สุขภาพโดยรวมดีขึ้นตามลำดับ อาการไอ ค่อยๆลดลง จนไม่มีอาการอีกเลย..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Arak Wongworachat