นายยรรยง พวงราช ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 22 – 24 กรกฎาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้แทนเข้าร่วมในพิธีเปิดงานแสดงสินค้าThe 8th China-South Asia Expo and the 28th China Kunming Import and Export Fair (8th CSA Expo and 28th Kunming Fair) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลยูนนาน พร้อมทั้งเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้า Top Thai Brands Kunming 2024 (TTB Kunming 2024) ที่จัดขึ้นภายใต้งานแสดงสินค้า 8th CSA Expo and 28th Kunming Fair ณ ศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติเตียนฉือ นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยปีนี้ ถือเป็นการจัดงานแสดงสินค้า TTB Kunming ครั้งที่ 9 ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีผู้ประกอบการไทยกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม สุขภาพและความงาม แฟชั่น และของใช้ภายในบ้าน 40 บริษัท และผู้นำเข้าสินค้าไทยในจีน 14 บริษัท รวมทั้งสิ้น 54 บริษัทเข้าร่วมงาน
งานแสดงสินค้า TTB Kunming 2024 ครั้งนี้ เป็นการจัดงานแสดงสินค้ารูปแบบออฟไลน์ผสานการประชาสัมพันธ์ ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยการ Live Streaming บรรยากาศในช่วงพิธีเปิดจาก KOL และเน็ตไอดอลที่มีชื่อเสียงของจีน เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมนัดหมายเจรจาการค้าเพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าแก่ผู้ประกอบการไทยที่เดินทางไปเข้าร่วมงาน รวมถึงการแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทยเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมงานชาวจีน โดยคาดว่า จะก่อให้เกิดมูลค่าการสั่งซื้อรวมไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท
ทั้งนี้ Top Thai Brands ถือเป็นงานแสดงสินค้าสำคัญของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่มุ่งเน้นคัดเลือกผู้ประกอบการไทยที่มีตราสินค้าเป็นของตนเองให้มีโอกาสออกไปขยายธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งการจัดงาน TTB Kunming 2024 ผู้ประกอบการไทยได้นำสินค้าหลากหลายเข้าร่วมงาน อาทิ เครื่องแกง ผักผลไม้อบแห้ง ข้าวตังธัญพืช คุกกี้กรอบรสชาดต่างๆ และกัมมี่เยลลี่ ก๋วยจั๊บญวนสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยวเรือสำเร็จรูป เนื้อปูม้าพาสเจอร์ไรส์ ปลากรอบ ข้าวเกรียบปลา ยาดมสมุนไพร น้ำมันนวดสมุนไพร ผลิตภัณฑ์กันแดดและบำรุงผิว ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม เครื่องประดับเงิน ทองและไข่มุก เสื้อผ้าฝ้ายแฮนด์เมด ผลิตภัณฑ์มัดย้อม แจ็คเก็ตผ้าไทย หมอนยางพาราผลิตภัณฑ์ภาชนะไม้ที่ใช้ในครัวเรือน อโรมาปรับอากาศและกาจัดกลิ่นในห้อง รถยนต์และรองเท้า
นายยรรยง กล่าวเสริมว่า การเดินทางเยือนนครคุนหมิงครั้งนี้ ยังได้มีโอกาสหารือกับผู้แทนกรมพาณิชย์ยูนนาน ทีมประเทศไทย และภาคเอกชนไทย–จีนรายสำคัญในมณฑลยูนนาน อาทิ สมาคมนักธุรกิจไทยในจีนตะวันตกเฉียงใต้ ผู้นำเข้าอาหารและเครื่องดื่มผู้นำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้นำเข้าผลไม้ ผู้แทนธนาคารกสิกรไทยประจำนครคุนหมิง สมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งยูนนาน และสมาคมอุตสาหกรรมสุขภาพคุนหมิง โดยได้ระดมความคิดในการขยายตลาดผลไม้โดยเฉพาะทุเรียนไทยซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวจีนให้เป็นที่จดจำและเข้าถึงได้อย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น ซึ่งในด้านตัวสินค้า ควรเร่งสร้างแบรนด์ทุเรียนไทยให้ติดตลาดในฐานะแบรนด์ประเทศไทย และให้ความสำคัญต่อความต้องการของตลาดรายมณฑลว่าผู้บริโภคต้องการผลไม้ไทยชนิดใด รวมถึงควรมีการจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) เพื่อให้ผู้บริโภคทราบแหล่งที่มาและข้อมูลต่างๆ ของผลไม้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อตัวสินค้าได้มากขึ้น สำหรับด้านการขนส่ง ปัจจุบันเส้นทางการขนส่งทางบก R3A เริ่มมีบทบาทต่อการส่งออกสินค้าจากภูมิภาคอาเซียนไปยังภาคใต้ของจีนเพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถร่นระยะเวลาการขนส่งลงได้เมื่อเทียบกับการขนส่งทางทะเล
นอกจากนี้ ในส่วนของความร่วมมือในด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าผ่านเส้นทางแม่น้ำโขงสู่ด่านท่าเรือกวนเหล่ย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ได้หยิบยกหารือกับฝ่ายจีนในช่วงการเดินทางเยือนมณฑลยูนนานในเดือนเมษายน 2567 นั้น นายยรรยง สอบถามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว ได้รับแจ้งว่า ด่านท่าเรือกวนเหล่ยในเขตสิบสองปันนา บริเวณแนวพรมแดนจีน–ลาว–พม่า จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมศกนี้ สำหรับสินค้าและบริการเพื่อผู้สูงอายุจัดเป็นอีกหนึ่งสาขาศักยภาพที่ไทย – มณฑลยูนนานสามารถขยายความร่วมมือระหว่างกันได้ ไม่ว่าจะเป็น การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และบุคลากรด้านแพทย์แผนจีน การร่วมพัฒนาศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพหรือที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุรวมถึงการส่งออก–นำเข้าสินค้าจำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ เป็นต้น
สำหรับการเยือนนครคุนหมิงครั้งนี้ คณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ยังได้เข้าร่วมพิธีปล่อยขบวนรถไฟขนส่งสินค้าระหว่างมณฑลกวางตุ้ง – มณฑลยูนนาน – รถไฟจีน–ลาว หรือ Lancang – Mekong Express เที่ยวปฐมฤกษ์ ณ ศูนย์โลจิสติกส์สถานีรถไฟหวังเจียอิ๋ง นครคุนหมิง โดยนายยรรยง พวงราช ได้รับเกียรติในฐานะผู้แทนจากประเทศไทยขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีดังกล่าว โดยขบวนรถไฟขนส่งสินค้าสายนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้านการขนส่งสินค้าระหว่างภูมิภาคอาเซียน – จีนที่จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตและส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาค ทั้งนี้ ประเทศไทยอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงความยาว 873 กิโลเมตร เชื่อมต่อกรุงเทพฯ กับเส้นทางรถไฟจีน–ลาว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2028 ซึ่งจะทำให้การค้าและการท่องเที่ยวระหว่างภูมิภาคเกิดความเชื่อมโยงกันมากยิ่งขึ้น