เมื่อวันที่ 28 ก.ค. พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง  ได้รับการประสานจากผู้นำท้องที่และญาติพาผู้ต้องหาเข้ามอบตัว จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สนธยา ด้วงเพ็ชร สว.สส.สภ.เมืองตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่  เดินทางรับตัว นายสำราญ นุ่นขาว หรือ หลวงพาน อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124/10 หมู่ 4 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง อาชีพกรรมกรก่อสร้าง หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ตรัง ที่ จ.283/2567 ลงวันที่ 28 ก.ค. 67 ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน และทำให้เสียทรัพย์ โดยมีทางผู้นำท้องถิ่นประสานให้ตำรวจเข้ารับมอบตัวตามหมายจับดังกล่าว

สืบเนื่องจากเวลาประมาณ 18.28 น. วานนี้ (27 ก.ค.)  เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองพกสั้นไทยประดิษฐ์ (ค้อนตราควาย) ยิงนางประเกี่ยว เมืองทวี หรือ ป้าดาว อายุ 61 ปี เข้าที่ศีรษะ บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดที่บ้านห้องเช่า เลขที่ 52/4 (ซอยวังมังกร) ถนนเวียนกะพัง ซอย 10 หมู่ 4 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ก่อนจะหลบหนี และได้ทิ้งรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้าง (ซาเล้ง) ทะเบียน ขงฉ 164 ตรัง ที่ใช้ก่อเหตุจอดทิ้งไว้ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ พร้อมกับปลอกกระสุนปืนลูกซอง 1 ปลอก

วันนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปควบคุมตัวตามหมายจับ ได้นำตัวมาเค้นสอบที่ สภ.เมืองตรัง  ใช้ระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยมีภรรยา ลูก และบรรดาญาติพี่น้องตามติดมาด้วย ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยืนยันขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น และไม่พูดถึงอาวุธปืนและสุนัขตัวดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนำเดินออกจากห้องสืบสวน ไปเข้าห้องขัง ผู้ต้องหาได้ใช้กระดาษปิดบังใบหน้า สังเกตสีหน้าที่อาการเคร่งเครียดตลอดเวลา โดยพูดกับสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวเพียงคำเดียวว่า “ขอให้การชั้นศาลเท่านั้น”

ขณะที่ นางเพียร สุดภัย อายุ 62 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกว่า สามีรักสุนัขมาก เลี้ยงดูแลเป็นอย่างดี ตนก็ไม่รู้เรื่องว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่จากเท่าที่ฟังก็รู้ว่าสาเหตุมาจากทะเลาะวิวาทกันเรื่องสุนัขและมีปากเสียงด่าทอกับผู้ชายอีกคน แต่กระสุนพลาดไปโดนผู้เสียชีวิต และปกติสามีจะไม่ค่อยยุ่งสุงสิงกับใคร เป็นคนเงียบๆ ไม่พูดมาก ไม่จู้จี้จุกจิกกับใคร และจะไม่นั่งบ้านของคนอื่น ที่รู้ๆ หมาของสามีก็ไม่เคยทำร้ายใคร หมาที่เลี้ยงไว้ก็อยู่ตามประสาของมันไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับใคร

นางเพียร เล่าต่อไปอีกว่า เหตุการณ์นี้ตนคิดว่าสามีห่วงหมา เพราะมีคนมาทำร้าย ส่วนปัญหาอื่นๆ ไม่มี ส่วนคนตายตนก็ไม่รู้จักเพราะเขามาเช่าอยู่ ก็รู้สึกเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่สามีก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะยิงถูกผู้ตาย ขอโทษครอบครัวผู้ตายที่ทำลงไปก็เพราะความโมโห ตอนนี้ก็ไม่ได้คุยอะไรในเรื่องที่เกิดเหตุเลย ส่วนตนก็ไม่มีปัญญาที่จะช่วยเหลือก็แล้วแต่พี่น้องของสามีจะช่วยเหลือยังไงตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า  ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่ จยย. ผ่านหน้าบ้านเช่า นายสมส่วน เดนบัวบาน คู่กรณีและบ้านผู้ตาย ซึ่งเป็นห้องเช่าติดกัน ระหว่างนั้นสุนัขของ นายสำราญ ที่วิ่งตามหลังรถมา ได้วิ่งเข้ามาหา นายสมส่วน ภรรยา และหลาน ภรรยานายสมส่วนจึงได้ไล่หมา ส่วนหลานได้ใช้ก้อนหินเขวี้ยงใส่หมา ทำให้ผู้ก่อเหตุโมโหจนมีปากเสียงกัน ถึงขั้นผู้ก่อเหตุด่าถึงบุพการี ก่อนจะขับรถกลับบ้านไป กระทั่งต่อมาผู้ต้องหาได้ขับรถวกกลับมาอีกครั้ง และได้ถามนายสมส่วน ว่ามีปัญหาอะไร ก่อนจะมีปากเสียงกันอีกครั้ง ผู้ก่อเหตุจึงได้ใช้ปืนหวังจะยิงนายสมส่วน แต่หลังจากผู้ก่อเหตุยกปืนขึ้นมา ผู้ตายได้ยืนใกล้ๆ อยู่ด้วย นายสมส่วนจึงวิ่งเข้าบ้านผู้ตาย ผู้ตายจึงได้ปิดประตูบ้าน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะลั่นไก แต่ปรากฏว่ากระสุนกลับไปโดนประตูบ้านทะลุเข้าศีรษะของผู้ตายดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัว ใช้หลักทรัพย์ 5 แสน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป