สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ว่า เหมืองทองคำและเหมืองเงินบนเกาะซาโดะ ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เป็นที่เชื่อกันว่า เริ่มดำเนินการตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 จนถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

ทางการญี่ปุ่นยื่นเรื่องขอขึ้นทะเบียนเหมืองแห่งนี้ให้เป็นมรดกโลก เนื่องจากประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และการใช้เทคนิคการทำเหมืองด้วยมือ ในช่วงเวลาที่เหมืองหลายแห่งในยุโรป หันมาใช้เครื่องจักรแทน

อย่างไรก็ตาม การยื่นข้อเสนอครั้งแรกของรัฐบาลโตเกียว เผชิญกับเสียงคัดค้านจากรัฐบาลโซล โดยทางเกาหลีใต้ระบุว่า เหมืองดังกล่าวมีการใช้แรงงานชาวเกาหลีโดยบังคับ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งในเวลานั้น ญี่ปุ่นได้ยึดครองคาบสมุทรเกาหลี

กระทั่งล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ เห็นชอบให้ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเหมืองทองซาโดะ เป็นมรดกโลก โดยมีเงื่อนไขว่า ญี่ปุ่นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อสะท้อน “ประวัติศาสตร์ทั้งหมด” ของเหมืองแห่งนี้ และดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว

ทั้งนี้ ยูเนสโกยืนยันการขึ้นทะเบียนเหมืองทองซาโดะ เป็นมรดกโลก ระหว่างการประชุมของคณะกรรมการ ในกรุงนิวเดลี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ภายหลังการเน้นย้ำถึงการอนุรักษ์ทางโบราณคดีของกิจกรรมการทำเหมือง ตลอดจนการจัดระเบียบทางสังคมและแรงงาน

“ฉันขอแสดงความยินดีการขึ้นทะเบียนครั้งนี้อย่างเต็มใจ และขอแสดงความนับถืออย่างจริงใจ ต่อความพยายามของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้” นางโยโกะ คามิกาวะ รมว.การต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์.

เครดิตภาพ : AFP