จากกรณี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จองพลัง” ลงพื้นที่ช่วยเหลือ นายป้อม ลูกจ้างวัย 37 ปี หลังถูก นายเผ่าพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี และ น.ส.ณีรนุช (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี สามีและภรรยาซึ่งเป็นนายจ้าง กระทำทารุณกรรมด้วยการใช้สายแก๊สและไม้เฆี่ยนตีตามร่างกาย จนเกิดบาดแผลเนื้อแตกหนองไหล สาเหตุจากไม่พอใจที่ นายป้อม ขายของไม่ได้ตามยอดที่ต้องการ ภายหลังฝ่ายนายจ้างเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจเพื่อสู้คดีแล้ว

ไม่ทันมอบตัว! ‘กัน จอมพลัง’ เกาะติดตำรวจบุกค้นบ้าน-จับกุม ‘นายจ้างโหด’

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนไทย นำหมายค้นจากศาลจังหวัดนครราชสีมา เพื่อค้นบ้านพักพื้นที่บ้านม่วง หมู่ที่ 8 ต.สายออ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะที่พักของลูกจ้าง พบว่าเป็นเต็นท์อยู่บริเวณหน้าบ้าน ภายในเต็นท์พบผ้าห่มสองผืน หมอนสองใบ ซึ่งมีลักษณะเป็นเชื้อรา และมีกลิ่นอับ อีกทั้งยังพบขวดน้ำลักษณะคล้ายฉี่ อยู่ภายในเต็นท์หนึ่งขวด จากนั้นได้ตรวจสอบห้องพักด้านหลัง พบที่รั้วมีสายยางแก๊สจำนวนหนึ่งวางอยู่ ทำให้สอดคล้องกับคำให้การของ นายป้อม ว่าโดนสายแก๊สดังกล่าวฟาดตามร่างกายมาโดยตลอด ส่วนในตัวบ้านเจ้าหน้าที่พบมีดดาบซามูไร 5 เล่ม ธนู 1 อัน ปืนอาก้าบีบีกัน 1 กระบอก กัญชาพร้อมอุปกรณ์เสพ และได้ไปพบไม้เบสบอล อยู่ภายในห้องเก็บของ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐาน

ด้าน พ.ต.อ.คเชนท์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้เสียหาย ระบุว่าถูกทำร้ายด้วยท่อพลาสติก สายแก๊ส และไม้เบสบอล จากการตรวจค้นก็พบหลักฐานดังกล่าวอยู่ภายในบ้านจริง อีกทั้งพบสัญญาเงินกู้ จึงได้ยึดไว้เพื่อมาตรวจสอบว่าเป็นการปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายหรือไม่ด้วย อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการตรวจหลักฐานตั้งแต่ มีดดาบ ไม้เบสบอล ธนู อาวุธปืนบีบีกัน รวมไปถึง กัญชาพร้อมอุปกรณ์เสพ ซึ่งดูจากพฤติกรรมผู้ก่อเหตุค่อนข้างมีความรุนแรง และส่อความผิดปกติ ส่วนทางคดีตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายจับ และตามจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นค้ามนุษย์อีกรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากว่าใช้แรงงาน ซึ่งมันไม่ควรเกิดเหตุขึ้นในประเทศไทย

ส่วนด้านผลการตรวจร่างกายตอนนี้ ผู้เสียหายยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลโนนไทย เพื่อรักษาบาดแผลจากการถูกทำร้าย จากการสอบถามผู้อำนวยการโรงพยาบาล ทราบข้อมูลมาว่า สภาพจิตใจค่อนข้างดีขึ้น อีกอย่างที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจห่วงในเรื่องของความปลอดภัย จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลที่โรงพยาบาล ซึ่งตอนนี้ทางผู้เสียหายอยู่ในการดูแลคุ้มครองของ พม.