“…เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป…“ …คือ “พระปฐมบรมราชโองการ” แห่ง “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” พระผู้ทรงครองสิริราชสมบัติเป็น “พระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ รัชกาลที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ที่ได้พระราชทานอารักขาแก่ปวงไทยไว้ ณ วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งไทยทุกหมู่เหล่าต่างแซ่ซ้องในน้ำพระทัย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระองค์…

‘ถวายราชสดุดี’ ๗๒ พรรษา เทิดองค์ราชา ‘ทรงพระเจริญ’ (๑)

‘ถวายราชสดุดี’ ๗๒ พรรษา เทิดองค์ราชา ‘ทรงพระเจริญ’ (๒)

‘ถวายราชสดุดี’ ๗๒ พรรษา เทิดองค์ราชา ‘ทรงพระเจริญ’ (๓)

‘ถวายราชสดุดี’ ๗๒ พรรษา เทิดองค์ราชา ‘ทรงพระเจริญ’ (๔)

“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” พระองค์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการดำเนินการ จัดทำโครงการต่าง ๆ มากมาย เพื่อประโยชน์ของประเทศไทยและปวงไทย และ ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด พระมหากรุณาธิคุณและพระเมตตาล้นพ้นต่อปวงไทยของ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9” และ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” สมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนี อีกทั้ง สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร และพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ก็ล้วนทรงสนอง “พระราชปณิธานเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรของในหลวงรัชกาลที่ 10” ดังปรากฏเป็นที่ประจักษ์ชัดต่อเหล่าปวงไทยใต้ร่มพระเมตตาบารมี

“ในหลวงรัชกาลที่ 10” ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงไทยเปี่ยมล้นยิ่ง… ทั้งนี้ นิทรรศการ “พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 7 ด้าน” ที่จัดแสดงอยู่ ณ ห้องดวงใจปวงประชา นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องราวสำคัญของชาติไทยที่ดำเนินการโดย สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ นับเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูล ที่ฉายชัดถึงพระเมตตาล้นพ้นที่ทรงมีต่อปวงไทย ซึ่งเนื้อหาจากนิทรรศการสำคัญยิ่งนี้ โดยสังเขปและโดยสรุปมีดังนี้…

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และแนวพระราชดำริต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด การวางรากฐานแนวทางพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรไทยให้มีความมั่นคง ดังเป็นที่ประจักษ์ชัดจากพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ซึ่ง มิใช่เพียงภายหลังทรงครองสิริราชสมบัติ หากแต่นับแต่ครั้งทรงพระเยาว์สืบมา… ทั้งนี้ พระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติดังเป็นที่ประจักษ์แก่ปวงไทยตลอดมานั้น มากมายนานัปการในทุกด้าน…

พระราชกรณียกิจด้านการเกษตร ทรงให้ความสำคัญกับแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภค-บริโภค ทรงพัฒนาโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กระจายอยู่ในทุกภูมิภาค เช่น… ภาคเหนือ 6 โครงการ, ภาคอีสาน 12 โครงการ, ภาคกลาง 6 โครงการ, ภาคใต้ 37 โครงการ รวมถึง… โครงการฝายห้วยโสกรังพร้อมระบบส่งน้ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ขอนแก่น, โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.กาญจนบุรี, โครงการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร ฯลฯ

พระราชกรณียกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งยังผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริในการบริหารจัดการ ทรงมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมที่ครอบคลุมทั้งด้านดิน น้ำ ป่า ผ่านโครงการต่าง ๆ มากมาย เช่น… มูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อช่วยเหลือความเป็นอยู่ของประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้ถาวร ป่าอนุรักษ์ ให้ได้อยู่ร่วมกันโดยไม่ทำลายธรรมชาติ, มูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อแก้ปัญหาการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้างป่า อนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ฯลฯ

พระราชกรณียกิจด้านการศึกษา พระองค์ มีพระราชดำริให้นำพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และทรัพย์จากผู้บริจาคโดยเสด็จพระราชกุศล มาใช้ประโยชน์ในการเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนที่ยากจน ให้มีโอกาสศึกษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้เกิดเป็นโครงการเพื่อการศึกษาต่าง ๆ มากมาย เช่น… มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หรือ ม.ท.ศ. พระราชทานทุนการศึกษาแก่เยาวชนฐานะยากจนที่เรียนดี ขยันหมั่นเพียร ประพฤติดี มีคุณธรรม, โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ กว่า 52 แห่ง เพื่อให้โอกาสทางการศึกษากับเด็กยากไร้ สนับสนุนอุปกรณ์การเรียน และอาคารเรียน สำหรับเด็กนักเรียนทั่วประเทศ ฯลฯ

พระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และการสาธารณสุข พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตระหนักว่าสุขภาพพลานามัยของประชาชนเป็นปัจจัยและพลังสำคัญในการพัฒนาชีวิตประชาชนและประเทศชาติ ทรงมีพระเมตตาในการประกอบพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างสืบเนื่องมายาวนาน เช่น… โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช 21 แห่งทั่วประเทศ เพื่อช่วยรักษาผู้ป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ, โรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี ช่วยรักษาผู้ป่วยมะเร็งทุกชนิด, มูลนิธิกาญจนบารมี ศูนย์บำบัดรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย ฯลฯ ทั้งนี้ ในช่วงที่มีการระบาดรุนแรงของโควิด-19 ก็ได้พระราชทานความช่วยเหลือมากมายแก่ประชาชน

พระราชกรณียกิจด้านศาสนา ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก และได้เสด็จฯ ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ทางพระพุทธศาสนาเป็นประจำเสมอมา เช่น… เสด็จฯ ไปทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรตามฤดูกาล, เสด็จฯ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวันสำคัญ เช่น มาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา เข้าพรรษา, การถวายกฐินหลวงวัดต่าง ๆ ฯลฯ ขณะเดียวกัน สำหรับ ศาสนาอื่น ๆ เช่น ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ก็ทรงให้ความสำคัญในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

พระราชกรณียกิจด้านการสังคม ศิลปะ และวัฒนธรรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงใส่พระราชหฤทัยให้ความสำคัญอย่างมาก ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่าง ๆ มากมายนานัปการ ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ จัดทำโครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ด้วยน้ำพระราชหฤทัยทรงห่วงใยความอยู่ดีมีสุขของประชาชน และพระราชปณิธานแน่วแน่ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน และสร้างความมั่นคงและวัฒนาสถาพรให้กับประเทศไทย โดยพระองค์ และพระบรมวงศานุวงศ์ ได้ทรงมีพระเมตตาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับแต่มีการจัดทำโครงการฯ สืบต่อมาจนปัจจุบัน ได้มีกิจกรรมต่าง ๆ มีโครงการเกี่ยวเนื่องต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย

พระราชกรณียกิจด้านการต่างประเทศ ซึ่งก็ถือว่าสำคัญยิ่งต่อประเทศไทยและประชาชนคนไทยในด้านต่าง ๆ ทั้งในเชิงความมั่นคง และในเชิงเศรษฐกิจ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชกรณียกิจสำคัญ ๆ เพื่อการเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่าง ๆ เสมอมานับแต่อดีต เช่น… เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปทรงเยือนมิตรประเทศอย่างเป็นทางการทั่วทุกทวีป, เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปทรงร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร, ทรงต้อนรับกษัตริย์ ราชวงศ์ ประมุข ผู้นำ บุคคลสำคัญ จากต่างประเทศ ที่เสด็จฯ ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย ด้วยพระองค์เอง, ทรงฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย ในรอบ 32 ปี ซึ่งเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งซาอุดีอาระเบีย ได้เข้าเฝ้าฯ ในฐานะแขกพิเศษ ฯลฯ อีกทั้งทรงมีพระราชสาส์นถึงกษัตริย์ ผู้นำ ของประเทศต่าง ๆ ในโอกาสสำคัญ ๆ เพื่อสัมพันธไมตรีที่ดีระหว่างไทยกับนานาประเทศ

…เหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลโดยสังเขป จาก นิทรรศการพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 7 ด้านณ ห้องดวงใจปวงประชา นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ซึ่งแม้ข้อมูลทั้งหมดในนิทรรศการก็ยังเป็นเพียงส่วนน้อยส่วนหนึ่ง จากน้ำพระทัยเปี่ยมด้วยพระเมตตาแห่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10” ที่ล้นพ้นสุดจะพรรณนา…

ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์” วันที่ 28 กรกฎาคม เวียนบรรจบและปี พ.ศ. 2567 นี้ยิ่งนับเป็น “มหาศุภมงคล” เป็นวโรกาส “มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา” ยิ่งนับเป็นโอกาสอันสำคัญที่พสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่าจะได้น้อมจิตรวมใจร่วมกันแสดงออกถึงความ จงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่ง “ในหลวงรัชกาลที่ 10” ที่ทรงมีต่อประเทศไทยและปวงไทย

องค์ราชา “พระมหากษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ รัชกาลที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม สืบต่อจากสมเด็จพระบรมชนกนาถ ซึ่งประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรไทย บังเกิดขึ้นทั่วราชอาณาจักรไทย ปวงไทยทุกหมู่เหล่าใต้ร่มพระบารมี น้อมสำนึกในพระเมตตาอันล้นพ้นยิ่ง…

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน