การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดงานเปิดตัวโครงการ “ไทยสู้โว้ย” กิจกรรมสร้างกระแสการชมและเชียร์ให้กำลังใจนักกีฬาไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 รวมทั้งการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยมี นายแพทย์มีชัย อินวู๊ด รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายบริหาร ร่วมพูดคุยในประเด็นความพร้อมของทัพนักกีฬาไทย ที่เข้าร่วมชิงชัยใน “ปารีสเกมส์ 2024” พร้อมด้วยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2004 “อร” อุดมพร พลศักดิ์ แชร์ถึงประสบการณ์การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่ผ่านมา ที่ลานกีฬาอเนกประสงค์ในร่ม

นายแพทย์มีชัย กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจสำคัญของ กกท. คือ การส่งเสริมศักยภาพด้านการกีฬาและการสนับสนุนให้นักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ โดยการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ก.ค.-11 ส.ค. 67 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถือเป็นมหกรรมกีฬาระดับโลก มีนักกีฬาจากกว่า 200 ประเทศ เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งในส่วนของประเทศไทยได้ส่งนักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 จำนวน 17 ชนิดกีฬา อาทิ เทควันโด, มวยสากล และยกน้ำหนัก รวมทั้งสิ้น จำนวน 51 คน มากที่สุดในประวัติศาสตร์การเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ของไทย ทั้งด้านชนิดกีฬาและนักกีฬา โดยจำนวน 37 คน เป็นนักกีฬาหน้าใหม่ ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่นักกีฬาไทย จะได้แสดงความสามารถและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนคนไทย

ในการส่งกำลังใจให้ทีมนักกีฬาไทย กกท. ได้เปิดตัวโครงการ “ไทยสู้โว้ย” ซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างกระแสการชมและเชียร์ให้กำลังใจนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมให้เยาวชน รวมถึงประชาชนทั่วไป ร่วมส่งกำลังใจ ชมและเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทย เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่นักกีฬา ตลอดจนสร้างการรับรู้และความเข้าใจของประชาชนถึงการพัฒนาศักยภาพความเป็นเลิศด้านกีฬาของนักกีฬาทีมชาติไทย

“กกท. มุ่งมั่นพัฒนานักกีฬาไทยเพื่อยกระดับสู่สากล โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานักกีฬาไทย ได้เข้าร่วมการแข่งขัน สั่งสมประสบการณ์ สร้างผลงานและชื่อเสียงให้ประเทศ ทั้งในระดับภูมิภาค ระดับทวีป และระดับโลก สำหรับการเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ในครั้งนี้ นักกีฬาไทยทุกประเภทได้มีการเตรียมความพร้อมและทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนัก ซึ่ง กกท. คาดหวังว่าโครงการ “ไทยสู้โว้ย” จะสร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความสนใจในการชม เชียร์ และส่งกำลังใจให้นักกีฬาไทยที่เข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ รวมถึงพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือน ส.ค. นี้ ที่ฝรั่งเศส เช่นเดียวกัน พร้อมกันนี้ ขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมติดตามชม และเชียร์ให้กำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยคว้าชัยชนะนำความภาคภูมิใจและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย” รองผู้ว่าการ กกท. กล่าว

สำหรับกิจกรรมในงานเปิดตัวโครงการ “ไทยสู้โว้ย” ประกอบด้วย Olympic Exhibition: นิทรรศการ “โอลิมปิกเกมส์” Digital Cheer Heroes: กิจกรรมส่งกำลังใจให้ฮีโร่นักกีฬาไทย 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. Digital E-Cheer: ส่งกำลังใจให้นักกีฬาไทยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถส่งสติกเกอร์ข้อความ (E-Sticker) และพิมพ์ข้อความ (E-Chat) เพื่อให้กำลังใจ, 2. Letter Post Cheer: เขียนข้อความให้กำลังใจลงบนกระดาษรูปหัวใจ และใส่ในกล่องอะคริลิกหัวใจ “ส่งใจไปปารีส 2024” และ 3. Photo Prop Cheer: ส่งกำลังใจผ่านป้ายข้อความ ด้วยการถ่ายรูปคู่กับป้ายบนฉากหลัง (Photo Backdrop)

นอกจากนี้ ยังมีโซน Sports Funtival Zone: กิจกรรมเกมกีฬามหาสนุก Cheer Dance Competition: แข่งขันเต้น “เชียร์สนั่นโลก” Fan Meet & Concert: กระทบไหล่ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2008 สมจิตร จงจอหอ ดารานักแสดง เบสท์-รักษ์วนีย์ คำสิงห์, ภูมิ-เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์ และคอนเสิร์ตจากศิลปินวง FLI:P, วง NEVONE รวมทั้งการปล่อยขบวน Olympic Troop Caravan เพื่อประชาสัมพันธ์การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมชม เชียร์ และส่งกำลังใจให้นักกีฬาไทย

โดยหลังจากการเปิดตัวโครงการในวันนี้ กกท. จะมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ กิจกรรมชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ผ่านจอ LED ขนาดใหญ่ ณ ลานกีฬาอเนกประสงค์ในร่ม การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ในวันที่ 6-10 สิงหาคม 2567 เวลา 16.00-20.00 น. และกิจกรรม Troop Caravan เพื่อสร้างกระแสการชมและเชียร์ให้กำลังใจนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 รวมจำนวน 9 จุด ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมส่งแรงใจและแรงเชียร์ให้ทัพนักกีฬาไทย คว้าชัยชนะในมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ผ่านโครงการ “ไทยสู้โว้ย” ได้ที่ www.thaisuwoy.com พร้อมติดตามความเคลื่อนไหว ที่ Facebook : กองประชาสัมพันธ์ กกท.