กรณี นายป้อม (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ลูกจ้างร้านตัวแทนจำหน่ายสินค้าบริษัทชื่อดังใน อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ถูกนายจ้างทำร้ายร่างกาย โดยใช้สายยางเตาแก๊สเฆี่ยนตีสะโพกและก้นเป็นร้อยๆ ครั้ง จนเป็นแผลฟกช้ำ ตกสะเก็ดมีรอยแตก ช้ำเลือดช้ำหนอง มีน้ำเหลืองไหลเปียกชื้นตลอดเวลาได้รับความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานมายาวนานหลายปี จนมีเพื่อนบ้านสังเกตเห็นพฤติกรรมทารุณโหดเหี้ยมของนายจ้าง แจ้งเรื่องถึง กัน จอมพลัง พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.โนนไทย เมื่อวานนี้ ก่อนถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลโนนไทย เนื่องจากแผลติดเชื้อรุนแรง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

‘กัน จอมพลัง’ ช่วยหนุ่มถูกนายจ้างผัวเมียทารุณ สายยางเฆี่ยนพันครั้ง-ไฟฟ้าช็อต

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. พ.ต.ท.ธวัช บุญเคหา รอง ผกก.สส.สภ.โนนไทย จ.นครราชสีมา สอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้ว 3 ปาก และสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม เบื้องต้น นายป้อม ให้การว่า มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดทางภาคเหนือ มาพักอาศัยและทำงานอยู่ที่ร้านของ นายโจ๊ก (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี นายจ้าง มานาน 10 ปี โดยนายจ้างให้ทั้งที่พักอาศัย อาหาร 1 มื้อ เงินเดือน 3,000 บาท และทำงานเป็นพนักงานขายสินค้า จำพวกเครื่องครัว เตาแก๊ส ได้ค่าตอบแทนส่วนแบ่ง 6% ของยอดขาย จึงมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 6,000-7,000 บาท พอเลี้ยงตัวเองได้ เพราะเป็นหนุ่มโสด ไม่มีพันธะครอบครัว แต่ระยะหลังมักถูกนายจ้างใช้สายยางเตาแก๊สเฆี่ยนตีเป็นประจำ เพราะติดค้างเงินจำนวนหนึ่ง ด้วยภาวะจำยอม จึงยอมถูกเฆี่ยนตีเรื่อยมา บางครั้งยอมถอดกางเกงให้นายจ้างเฆี่ยนตีหลาย ๆ ครั้ง จนสะโพกและก้นเป็นแผลติดเชื้อ ไม่เคยบอกผู้ใด และไม่เคยแจ้งความเอาเรื่อง เพราะกลัวถูกไล่ออกจากบ้าน จึงต้องจำทนอยู่ไปเรื่อย ๆ จนเรื่องแดง

พ.ต.ท.ธวัช ให้ข้อมูลว่า จากคำให้การของผู้เสียหาย ยังดูวกวนสับสนในบางประเด็น โดยเฉพาะพฤติการณ์ที่เจ้าตัวยินยอมให้นายจ้างเฆี่ยนตี โดยไม่ขัดขืนต่อสู้ และถูกเฆี่ยนตีมานานเป็นปี บางครั้งถูกตีเป็นร้อย ๆ ครั้ง ซึ่งดูผิดปกติ ผิดธรรมชาติ สาเหตุจากเรื่องเงิน ซึ่งยังน่างุนงงสงสัยว่าอาจมีประเด็นสาเหตุอื่น ๆ เกี่ยวข้องหรือไม่ ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลให้กระจ่างชัด ส่วนนายโจ๊ก นายจ้างผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นได้โทรศัพท์มาแจ้งความประสงค์จะขอเข้ามอบตัวสู้คดี แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มามอบตัวแต่อย่างใด ส่วนที่ร้านซึ่งเป็นบ้านพักก็ถูกปิด ไม่เปิดขาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ขอหมายค้น เพื่อเข้าตรวจค้นหาหลักฐานในวันนี้

วันเดียวกัน นายเกริกฤทธิ์ โชติธาพิพัฒน์ ทนายความของบริษัทจำหน่ายสินค้า นำเอกสารคู่สัญญาระหว่างบริษัทเจ้าของสินค้ากับ นายโจ๊ก นายจ้างผู้ก่อเหตุ ให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบ พร้อมยืนยันว่า นายโจ๊กเป็นตัวแทนนำสินค้าของบริษัทไปจำหน่ายต่ออีกทอดหนึ่ง นำสินค้าไปตั้งทีมตัวแทนขายอีกทอดหนึ่ง ไม่ได้มีพันธะผูกพันในฐานะพนักงานของบริษัทแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงแบบนี้ บริษัทฯได้ยกเลิกสัญญากับตัวแทนรายนี้ทันที พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายในเบื้องต้นไปแล้ว ยืนยัน ทั้งตัวนายจ้างผู้ก่อเหตุ และตัวลูกจ้างผู้ถูกทำร้าย ไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทโดยตรงแต่อย่างใด

พ.ต.อ.คเชนต์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา กำกับดูแลคดีค้ามนุษย์ กล่าวว่า คดีนี้เข้าข่ายเป็นคดีค้ามนุษย์ชัดเจน เพราะมีพฤติการณ์ทารุณกรรมลูกจ้างให้ได้รับความเจ็บปวดทรมาน และบาดเจ็บ ตำรวจได้ประสานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) รวมถึงแรงงานและสวัสดิการ ให้เข้ามาช่วยเหลือเยียวยาหรือดูเรื่องสวัสดิการให้กับลูกจ้างผู้เสียหาย เบื้องต้นหากรักษาอาการแผลติดเชื้อหายแล้ว จะถูกส่งตัวไปพักอยู่กับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนนายจ้างผู้ก่อเหตุอยู่ระหว่างออกหมายค้นบ้าน ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ค้ามนุษย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ ซึ่งหากพบว่ามีพฤติการณ์หลบหนีก็ต้องออกหมายจับตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.