เมื่อวันที่ 26 ก.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และประธานคณะกรรมการนโยบาย กทม. พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้เคยแจ้งให้กับประชาชนทราบว่า ได้หารือกับนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าฯ กทม. แล้วว่า จะเสนอบุคคลภายนอก ที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องงบประมาณ และมีประสบการณ์ในการตรวจสอบการทุจริต เข้าไปเป็นกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณ กทม. พ.ศ. 2568 ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล จำนวน 2 ท่าน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนายชัชชาติ เพื่อที่จะช่วยกันทำให้งบ กทม. 90,000 ล้านบาท ให้มีความโปร่งใส และเกิดประโยชน์กับชาว กทม. อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ในวันนี้ ตนรู้สึกตกใจ และกังวลใจอย่างมาก ที่รับทราบข่าวมาว่าพรรคเพื่อไทย มีแนวคิดที่จะไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณ กทม. ที่จะพิจารณาในสภา กทม. ในวันที่ 30 ก.ค. นี้

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเหตุผลของพรรคเพื่อไทย ว่าทำไมถึงได้คัดค้านกระบวนการที่จะพยายามที่จะทำให้งบประมาณมีความโปร่งใส เหตุใดถึงไม่เห็นด้วยที่จะให้บุคคลภายนอกที่มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่น ให้เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณางบประมาณ ยกตัวอย่าง การพิจารณางบประมาณประจำปี 2568 ของสภาผู้แทนราษฎร การที่พรรคก้าวไกล เสนอให้นายวีระ ธีระภัทรานนท์ เข้ามาเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบปี 68 ก็ทำให้การตรวจสอบ การจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลมีประสิทธิภาพ และมีความสมเหตุสมผลเพิ่มมากขึ้น ประชาชนได้รับประโยชน์จากงบประมาณอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น จึงไม่เข้าใจว่า ทำไมพรรคเพื่อไทย ถึงได้คัดค้าน การเสนอบุคคลภายนอกให้มาเป็นคณะกรรมการพิจารณาร่างงบประมาณ กทม. ในครั้งนี้

นายวิโรจน์  กล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบาย กทม. ของพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า จากการหารือกับ สก. ของพรรคก้าวไกล ยังคงยืนยันที่จะเสนอชื่อบุคคลภายนอก เข้าไปเป็นคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณ กทม. ในวันที่ 30 ก.ค. นี้ หากพรรคเพื่อไทยจะคัดค้าน ก็ให้โหวตไม่รับรองในสภา กทม. พร้อมกับชี้แจงเหตุผลให้กับประชาชน ให้รับทราบด้วย โดยบุคคลภายนอก จำนวน 2 ท่าน ที่พรรคก้าวไกลเสนอให้เป็นคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณ กทม. เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์อันเป็นที่ยอมรับจากสังคมอย่างแน่นอน และขอเชิญชวนชาว กทม. และประชาชนทั้งประเทศ ร่วมกันติดตามการอภิปรายงบประมาณของ กทม. ในวันที่ 30 ก.ค. นี้.