สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ว่า นายเซอร์เก ปั้น มหาเศรษฐีชาวเมียนมา วัย 71 ปี ลาออกจากตำแหน่งประธานของโยมา สตราเทจิก โฮลดิงส์ แล้ว “โดยมีผลทันที” บริษัทระบุในแถลงการณ์ ซึ่งยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (เอสจีเอ็กซ์)

อนึ่ง โยมา กรุ๊ป เป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, บริการทางการเงินบนมือถือ, อาหารและเครื่องดื่ม, เครื่องจักรกลหนัก และรถยนต์โดยสารในเมียนมา อย่างไรก็ตาม ธุรกิจธนาคารของเซอร์เก ปั้น กำลังเผชิญกับการตรวจสอบของหน่วยงานในเมียนมา หลังมีรายงาน การปล่อยสินเชื่อให้ชาวเมียนมา เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทย และการปล่อยกู้เกินกำหนด

ธนาคารกลางเมียนมากล่าวเมื่อต้นเดือนนี้ ว่าจะดำเนินการกับธนาคาร 7 แห่ง รวมถึงโยมา แบงก์ จากกรณีอนุมัติสินเชื่อเกินกว่าขีดจำกัดของธนาคารกลาง “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดในเมียนมา สร้างความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเซอร์เก ปั้น และการมีส่วนร่วมของเขากับรัฐบาลเมียนมา เกี่ยวกับการธนาคารในประเทศ” โยมา กรุ๊ป ระบุในแถลงการณ์

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า “จากสถานการณ์ดังกล่าว เซอร์เก ปั้น พร้อมคณะกรรมการบริหาร ตัดสินใจว่า การเร่งดำเนินการตามแผนการสืบทอดตำแหน่ง จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท, ผู้ถือหุ้น, พนักงาน และลูกค้า” อนึ่ง มีรายงานว่า นายเมลวิน ปั้น ซึ่งเป็นบุตรชาย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัท

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทยืนยันกับเอสจีเอ็กซ์ ว่าเซอร์เก ปั้น ยังคงอาศัยอยู่ที่กรุงเนปิดอว์ แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า นักธุรกิจใหญ่ถูกควบคุมตัวหรือกักบริเวณในบ้านหรือไม่ โดยใช้คำว่า “เขาพักอยู่ในสถานที่ซึ่งภาครัฐจัดให้ และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่” อย่างไรก็ดี บริษัทระบุในแถลงการณ์ว่า “ไม่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับเซอร์เก ปั้น”

ขณะที่มีรายงานว่า เซอร์เก ปั้น และพนักงานอีก 2 คน ยังคงสามารถใช้อุปกรณ์สื่อสารของตนเองได้ “แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข” และคาดว่า จะต้องอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนั้นต่อไป จนกว่ากระบวนการสอบสวนจะเสร็จสิ้น.

เครดิตภาพ : AFP