จากกรณีนางณี (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี มารดาของ ด.ญู.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ชัยวุธ ศรีวิเลิศ สว.(สอบสวน) สภ.หัวไทร ว่า ด.ญู.เอ ลูกสาว ได้ถูกนายจัน (นามสมมุติ) อายุ 72 ปี ดักฉุดใช้ผ้าขาวม้ารักคอลากเข้าป่า ใช้ไม้ทุบตีร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนใช้กำลังข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ พร้อมพูดว่า “วันนี้เป็นวันสุดท้ายของมึง” โดยแพทย์ทำการตรวจร่างกายระบุชัดเจนว่าอวัยวะเพศถูกล่วงละเมิดจนฉีกขาด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า ทางญาติ ๆ ของ ด.ญ.เอ ได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ช่วยติดตามคดีอย่างใกลชิด เกรงว่า ด.ญ.เอ จะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากนายจัน ผู้ต้องหานับเป็นผู้มีฐานะร่ำรวยติดอันดับเศรษฐีสวนปาล์มและมีชื่อเสียงกว้างขวางใน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช โดยหลังเกิดเหตุนายจัน ได้วิ่งเต้นเคลียร์คดีกับทางแม่และญาติๆ โดยพร้อมจะจ่ายเงินก้อนใหญ่ให้กับแม่ของ ด.ญ.เอ และยังวิ่งเต้นผ่านผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ช่วยเป่าคดีฉาวให้ลอยนวล ซึ่งหลังก่อเหตุยังขับรถไปทั่วพื้นที่ ยิ้มระรื่นไม่สะทกสะท้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงเกรงว่า ด.ญ.เอ จะไม่ได้รับความเป็นธรรม และนายจัน พ้นผิดลอยนวล

หดหู่! ‘เฒ่านรก’ ฉุดลาก ‘ด.ญ.วัย 14’ เข้าป่า ใช้ผ้ารัดคอ-ไม้ทุบตีน่วมก่อนข่มขืนทารุณ

ทางแม่และญาติ ๆ ของ ด.ญ.เอ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับนายจัน จนถึงที่สุด จะไม่รับเงินก้อนโตที่เสนอให้อย่างแน่นอน จึงได้ให้ข้อมูลสำคัญกับสื่อมวลชนว่าในขณะนี้ ด.ญ.เอ ผู้เสียหายอยู่ในอาการหวาดผวาอย่างหนักและในระหว่างที่นอนรักษาตัวที่ รพ.หัวไทร ได้ขอให้แม่และญาติ เฝ้าใกล้ชิดเพราะเกรงจะถูกฆ่าปิดปาก เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่นายจัน ซึ่งให้ความเคารพนับถือในฐานะญาติผู้ใหญ่ น่าจะมีการวางแผนและจงใจก่อเหตุฆ่าปิดปาก ด.ญ.เอ โดยมีสาเหตุมาจากที่ผ่านมานายจัน ได้หลอกล่อ ด.ญ.เอ ไปข่มขืนกระทำชำเรามาราธอนมาแล้วเกือบ 1 ปี จนมาทราบว่า ด.ญ.เอ ตั้งท้องเกือบ 4 เดือน จึงพยายามที่จะบังคับพา ด.ญ.เอ ไปทำแท้ง แต่ด.ญ.เอ ไม่ยอม นายจัน เกรงว่าเรื่องจะแดงออกไปจนสังคมรับรู้ สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับวงศ์ตระกูล เพราะตัวนายจัน เองเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของ อ.หัวไทร ที่ผู้คนเคารพนับหน้าถือตาอย่างกว้างขวาง ในขณะที่ลูกหลานหลายคนล้วนมีฐานะร่ำรวย มีหน้าที่การงานที่ดี เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางเช่นกัน

นายจัน คิดว่าหลังข่มขืน ด.ญ.เอ จนตั้งท้อง 4 เดือน เรื่องจะต้องฉาวโฉ่ออกมาในอีกไม่ช้านี้อย่างแน่นอน จึงคิดวางแผนฆ่าปิดปาก ด.ญ.เอ มาระยะหนึ่งแล้ว จะเห็นได้ว่าหลังจากใช้ผ้าขาวม้าคลองคอ ด.ญ.เอ ลากลงจากรถจยย.พาเข้าไปในป่าละเมาะภายในสวนปาล์ม มัดด้วยผ้าขาวม้าและใช้ไม้ทุบตีใบหน้าและลำตัวอย่างโหดร้ายทารุณ พร้อมประกาศว่า “วันนี้เป็นวันสุดสุดท้ายของมึง” ก่อนจะลงมือข่มขืนกระทำชำเราอย่างทารุณกันเป็นครั้งสุดท้าย แต่นับว่าโชคดีที่ ด.ญ.เอ ยังพอมีสติและเรี่ยวแรง จึงใช้ช่วงจังหวะที่นายจันเผลอ รวบรวมพละกำลังที่มีอยู่ดิ้นรนและวิ่งหนีพ้นเงื้อมมือมัจจุราชรอดมาได้อย่างหวุดหวิด

อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะส่งตัว ด.ญ.เอ ไปตรวจหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าใครคือพ่อของทารกในท้อง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนัดสหวิชาชีพร่วมสอบสวนปากคำ และคาดว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับกุมนายจัน จากศาลจังหวัดปากพนังต่อไป.