จากกรณีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความ “ปาฏิหาริย์ กลางเขื่อนน้ำอูน พระลอยน้ำมาในคืนวันเข้าพรรษา ชาวบ้านที่ขับเรือออกหาปลาเห็น จึงมาบอกหลวงปู่ให้ไปดูและเชิญพระมาที่วัด และจะเอาไว้ที่ อุโบสถ สิมน้ำ ต่อไป #เรื่องอัศจรรย์ ได้พบเห็นด้วยตนเอง เหตุเกิดในคืนวันเข้าพรรษาที่ผ่านมา บริเวณริมเขื่อนน้ำอูน บ้านดงคำโพธิ์ ต.ปลาโหล อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร” ภายหลังเรื่องดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ต่างมีผู้แสดงความคิดเห็นว่า เหตุใดพระพุทธรูปหล่อโลหะ ซึ่งมีน้ำหนักมากไม่จมน้ำ และตั้งตรงได้เหมือนตั้งวางไว้พื้นเรียบ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งได้พบเจอ ก็ต่างกันพนมมือสาธุ

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดดอยเทพเนรมิต อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร ซึ่งเป็นวัดที่พระพุทธรูปถูกนำมาเก็บรักษาไว้ภายในวัด ตรวจสอบเป็นพระพุทธรูปหล่อโลหะ สภาพสมบูรณ์ สูงประมาณ 1 เมตรกว่า หนักประมาณ 20-30 กิโลกรัม ไม่สามารถยกคนเดียวได้

สอบถาม พระครูวรธรรมโชติ เจ้าอาวาสวัดดอยเทพเนรมิต กล่าวว่า พระพุทธรูปดังกล่าวนั้นเป็นพระปางพุทธลีลา อดีตนายกเทศมนตรีพังโคน นำมาถวายแก่ วัดดอยเทพเนรมิต เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว จากนั้นช่วงหนึ่ง พระสงฆ์ในวัดรูปหนึ่ง ต้องการย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดภูกระแต ต.นาใน อ.พรรณานิคม จึงขออนุญาตเจ้าอาวาสนำพระปางพุทธลีลาองค์นี้ ไปประดิษฐานที่วัดดังกล่าวด้วย

ต่อมาเมื่อ 4 ปีก่อน ทราบข่าวว่าพระพุทธรูปหายไป และไม่รู้หายไปได้อย่างไร ทราบอีกครั้งคือวันเข้าพรรษาปีนี้ ชาวบ้านมาแจ้งว่าพบพระพุทธรูปที่เคยประดิษฐานอยู่ที่วัดดอยเทพเนรมิต ลอยอยู่เหนือริมน้ำอูน บ้านดงคำโพธิ์ ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกใจเช่นกัน ทำไมพระพุทธรูปนั้นไม่จมลงเขื่อน ทั้งที่มีน้ำหนักมาก แต่คงด้วยด้านในมีสภาพโปร่ง จึงมีอากาศทำให้ลอยน้ำได้จนลอยเข้าฝั่ง ขณะที่ญาติโยมเอง มองกันเป็นเรื่องอัศจรรย์หรือปาฏิหาริย์ ก็มองไปได้ แต่ก็ยืนอยู่ด้วยหลักการและเหตุผล

พระครูวรธรรมโชติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ก็น่าคิดว่า พระพุทธรูปได้หายไป แล้วไปโผล่ลอยริมเขื่อนน้ำอูนในวันพระใหญ่ตรงกับวันเข้าพรรษา ขณะเดียวกัน ทางวัดเองกำลังสร้างอุโบสถสิมน้ำหลังใหม่ใกล้แล้วเสร็จ เป็นไปได้คงอยากกลับมาที่วัดแห่งนี้ ที่เคยประดิษฐานอยู่ ซึ่งหากอุโบสถสิมน้ำแล้วเสร็จ ก็จะนำไปประดิษฐานไว้ด้านในต่อไป.