เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประเสริฐ สีปาก อายุ 33 ปี ชาว อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ได้เข้าติดต่อห้องเก็บศพโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อติดต่อรับร่างคุณพ่อ นายเหล็ก สีปาก อายุ 70 ปี หลังถูกสุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่กัดเสียชีวิตที่ถนนในหมู่บ้าน ต.กุดขอนแก่น อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา

นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนเองได้ไปทำงานที่ จ.ชลบุรี ก่อนได้รับการติดต่อจากญาติว่าพ่อของตนเองถูกสุนัขกัด กำลังนำตัวส่งไปยังรพ. จากนั้นอีกครึ่งชั่วโมงญาติโทรฯ กลับมาบอกว่าพ่อได้เสียชีวิตแล้ว โดยได้นำร่างมาชันสูตรที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มข. จึงรีบกลับมาบ้านเพื่อติดต่อราชการและนำร่างพ่อกลับมาทำพิธีทางศาสนาที่บ้าน

“ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยปกติพ่อตนเองจะเดินไปมาในหมู่บ้านตามปกติ แต่คืนเกิดเหตุนั้น ตนเองไม่ทราบว่าพ่อไปถูกสุนัขกัดได้อย่างไร เบื้องต้นตนเองยังไม่ได้พูดคุยกับเจ้าของสุนัข ทราบว่าเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่นำร่างของพ่อกลับไปทำพิธีที่บ้านแล้วจะมีการเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของสุนัข เพราะอยากให้มารับผิดชอบด้วย” นายประเสริฐ กล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเจ้าของสุนัข พร้อมกับนายสุทธิรักษ์ ดวงตาน้อย นายก อบต.กุดเพียขอม พบนายสกล ครองยุติ อายุ 49 ปี และนางเสาวนีย์ ครองยุติ อายุ 46 ปี เพื่อให้คำแนะนำในเรื่องของการเลี้ยงสุนัขดุ และแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นซ้ำ พร้อมทั้งสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้แนะนำให้มีการติดป้ายเตือนว่าที่บ้านมีสุนัขดุและมีรั้วรอบขอบชิด

โดยนางเสาวนีย์ เจ้าของบ้านเดินพาดูกรงเหล็กที่ขังสุนัขไว้จำนวน 3 ตัว พบสุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ชื่อเดอบี้ อายุ 3 ปี ลิซ่า อายุ 3 ปี และเจ้าน้อย อายุ 1 ปี นอกจากนี้ นางเสาวนีย์ ยังได้พาผู้สื่อข่าวดูจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งยังมีรถจักรยานสีแดงของผู้เสียชีวิตจอดอยู่ที่เกิดเหตุ และมีร่องรอยคราบเลือดอยู่เกลื่อนถนนหน้าบ้าน

นางเสาวนีย์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนั้น ตนเองออกไปซื้อของที่ร้านค้าในหมู่บ้าน โดยตอนออกไปนั้นได้ปิดประตูมิดชิด ผูกสายไฟคล้องเอาไว้ 3 ชั้น ทั้งชั้นบน ชั้นกลาง และชั้นล่าง รวมทั้งคล้องแม่กุญแจเอาไว้แต่ไม่ได้ล็อก เมื่อกลับมาก็พบผู้เสียชีวิตถูกสุนัขของตนเอง 3 ตัวรุมกันที่บริเวณศีรษะและใบหน้า ส่งเสียงร้องโอดโอย โดยมีรถจักรยานของผู้เสียชีวิตล้มอยู่หน้าบ้าน ตนเองจึงไล่สุนัขไปขังไว้ในกรงในบ้าน ก่อนจะเรียกรถกู้ชีพมาช่วยเหลือผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนั้นยังร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด

ทั้งนี้ที่ผ่านมาสุนัขของตนเองไม่เคยกัดคน จะเลี้ยงไว้ภายในบ้านเท่านั้น จะไม่เปิดให้ออกไปนอกรั้วบ้าน ในวันเกิดเหตุตนเองก็ไม่อยู่เพราะไปซื้อของ จึงไม่ทราบเหตุการณ์ แต่กลับมาพบว่าประตูเปิดกว้างอยู่ ไม่มั่นใจว่าผู้เสียชีวิตจะเปิดประตูเองหรือไม่ ในส่วนของการช่วยเหลือนั้นก็จะมีการช่วยเหลือเรื่องของค่าทำศพ แต่ทั้งนี้จะต้องรอพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิตอีกครั้งในเรื่องของจำนวนเงินที่จะช่วยเหลือ.