วันที่ 25 ก.ค. ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น (สทท.1 กก.1 บก.ทท.2 บช.ทท.) พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย นางหลิว หงเหมย กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำ จ.ขอนแก่น ร่วมเป็นประธานเปิดโครงการอบรมภาษาจีนสำหรับตำรวจท่องเที่ยว ประจำปี 2567 ซึ่งสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำ จ.ขอนแก่น ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้กำหนดจัดการอบรมขึ้นโดยมีข้าราชการตำรวจท่องเที่ยวในสังกัดภาคอีสานเข้าร่วมรับการฝึกอบรมรวม 30 คน               

พล.ต.ต.พงษ์สยาม กล่าวว่า ข้าราชการตำรวจท่องเที่ยวชุดที่ 1 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในภาคอีสานที่เข้ารับการฝึกอบรมรุ่นแรก จำนวน 30 คน ทั้งหมดปฏิบัติงานในส่วนของสายตรวจ, ชุดสืบสวนและสิบเวรอำนวยการประจำสถานี ซึ่งทุกคนจะต้องให้บริการและรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนที่มีมาอย่างยาวนานและขณะนี้รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศได้มีนโยบายฟรีวีซ่า ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา จึงทำให้คนจีนเดินทางมาประเทศไทยและคนไทยเดินทางไปประเทศจีนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับการท่องเที่ยว       

“ปัจจุบันเราอยู่ในโลกไร้พรมแดนมีการติดต่อสื่อสารกันในด้านต่างๆ อย่างสะดวก รวดเร็วแทบทุกวินาที อีกทั้งภาษาจีนเป็นอีกหนึ่งภาษาที่สำคัญของโลก ดังนั้นการที่ตำรวจท่องเที่ยวที่ปฏิบัติงานในภาคอีสานได้มาทลายกำแพง จนกลายเป็นกุญแจดอกสำคัญที่สถานกงสุลใหญ่จีนให้การสนับสนุนในด้านภาษาจึงเป็นสิ่งที่นำไปใช้งานได้จริง เพราะเพียงก้าวแรกที่นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในพื้นที่ตำรวจท่องเที่ยวที่ประจำที่สนามบินและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สามารถที่จะสื่อสารเบื้องต้นได้ก็จะทำให้เกิดความอุ่นใจและความประทับใจตั้งแต่แรกพบ ดังนั้นการเรียนการสอนชุดแรกจำนวน 30 ชม.โดยสถาบันขงจื่อ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จะมาทำการเรียนการสอนในทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี จะเน้นหนักในเรื่องของการสื่อสาร, ศัพท์ด้านการท่องเที่ยว และศัพท์ตามยุทธวิธีตำรวจ โดยมั่นว่าตำรวจท่องเที่ยวอีสานชุดแรก 30 นายที่เข้ารับการอบรมจะประสบผลสำเร็จจนสามารถที่จะสื่อสารกับนักท่องเที่ยวจีนได้โดยเฉพาะโครงข่ายรถไฟที่เชื่อมต่อไทย-ลาว-จีน ที่มีนักท่องเที่ยวจีนเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่องแล้วในระยะนี้”             

ขณะที่นางหลิว กล่าวว่า จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย ซึ่งระบุว่าภายหลังจากนโยบายฟรีวีซ่าตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยแล้วกว่า 3.7 ล้านคน สูงที่สุดในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขณะที่ตลอดทั้งปีรัฐบาลไทยตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในภูมิภาคต่างๆ ของไทยมากถึง 7.3 ล้านคน ดังนั้นความร่วมมือที่เกิดขึ้นจึงเป็นประเด็นที่สำคัญและสร้างความมั่นใจ และความอุ่นใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างมาก เพราะเมื่อเกิดปัญหาใดๆ หรือต้องการติดต่อสอบถามก็สามารถที่จะสื่อสารกับตำรวจท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ได้  ซึ่งแม้ว่านักท่องเที่ยวจีนยังคงไม่รู้จักจังหวัดต่างๆ ของภาคอีสานมากนัก แต่การเดินทางเชื่อมต่อจีน-ลาว-ไทย ที่เกิดขึ้นจะทำให้ภาคอีสานเป็นจุดแรกที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาพื้นที่ผ่านขบวนรถไฟ อย่างไรก็ดี สถานกงสุลฯ ยังคงได้จัดทำไลน์และวีแชต สำหรับการสื่อสารระหว่างสถานกงสุลฯ กับนักท่อเที่ยวไทยที่จะเดินทางไปจีน และนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางมาไทย ที่จะสามารถรับทราบถึงข้อมูลข่าวสารและข้อมูลท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ของภาคอีสานกันมากขึ้นด้วย