เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 ก.ค. ที่ห้องมัฆวานรังสรรค์ ชั้น 3 สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน: ตัวเร่งปฏิกิริยาเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในประเทศไทย (Public-Private-People Partnerships: Catalysts for a Low Carbon Economy in Thailand)” ในงานสัมมนาวิชาการ ทศวรรษที่ก้าวผ่าน ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Shaping our future: A Seminar on Environmental Governance for Sustainability) ของหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปธส.) โดย ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงาน 

เมื่อเดินทางถึงนายกฯ ได้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกับสมาชิกหลักสูตร ปธส. จากนั้นเยี่ยมชมนิทรรศการแสดงผลงานการแปรรูปภาชนะต่างๆ ที่ผลิตจากเยื่อพืชธรรมชาติย่อยสลายได้โดยการฝังกลบ และยังได้ชิมกาแฟอาราบิก้าสายพันธุ์ Geisha geisha varietal จากประเทศเอธิโอเปีย และ กาแฟ Finca Los Cenizos

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาโลกร้อน ภัยพิบัติทางธรรมชาติ มลพิษสิ่งแวดล้อมข้ามแดน และปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ล้วนเป็นปัญหาที่ทุกประเทศทั่วโลกตระหนักและให้ความสำคัญ ซึ่งปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้มักถูกหยิบยกขึ้นมาหารือในทุกเวทีระดับโลก ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจาก Climate Change ที่จะกำหนดความอยู่รอดของเศรษฐกิจและสังคม โดยมีความท้าทายจากทั้งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่าง ๆ โดยเฉพาะคาร์บอนไดออกไซด์ และการเตรียมปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป

“การที่ผมเดินทางไปต่างประเทศ ไปพูดคุยดึงดูดนักลงทุนเรื่องพลังงานสะอาด เป็นเรื่องสำคัญที่เพิกเฉยไม่ได้ ทุกบริษัทอยากลงทุนในไทย แต่ถามหาพลังงานสะอาด ถ้าเราไม่มีพอหรือราคาไม่เหมาะสมก็เป็นประเด็นหลักประเด็นหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่มาตรการสนับสนุนภาษีอย่างเดียว ความง่ายความสบายหรือความเป็นมิตรของคนไทยทุกคนที่เชื้อเชิญให้เขามาลงทุนพลังงานสะอาด เป็นเรื่องระดับต้นๆ ที่เขาตัดสินใจมาลงทุนในไทย” นายกรัฐมนตรีกล่าว 

นายกฯ กล่าวต่อว่า เราอยู่ในโลกที่มีความท้าทาย เป็นประเทศเล็ก แต่เวทีโลกมีความผันผวนสูงมาก มีการเปลี่ยนผู้นำต่างๆ ผู้นำต่างๆ ในหลายประเทศมีส่วนในการกำหนดนโยบายที่อาจไม่สอดคล้องหรือเป็นประโยชน์ต่อธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พวกเราเองแม้เป็นประเทศที่เล็กอาจจะเป็นคนตัวเล็กแต่จิตใจเราเข้มแข็ง ต้องมีความมุ่งมั่นและพยายามทำอย่างเต็มที่ แม้บางประเทศจะมีการหวั่นไหวเปลี่ยนนโยบายต่างๆ  ตนเชื่อว่าพวกเราทุกคนแม้จะตัวเล็กแต่จิตใจแข็งแกร่งเราจะต้องเดินไปข้างหน้าให้ได้ อย่าหวั่นไหวต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบาย เพราะเราสร้างมาดีอยู่แล้วเรื่องการรักษ์โลก การที่เรามานั่งที่นี่ 11 รุ่นแล้ว พวกท่านทำดีอยู่แล้วจะต้องช่วยกันผลักดันและเป็นกระบอกเสียงให้กับประเทศเรา แม้เราจะเป็นประเทศเล็กเรื่องนี้เราถือเป็นเรื่องใหญ่.