เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา เกรซ โรห์ลอฟฟ์ นักศึกษาสาววัย 20 ปีจากแอริโซนา เสียชีวิตอย่างน่าสลดใจระหว่างร่วมทริปปีนเขากับโจนาธาน โรห์ลอฟฟ์ พ่อของเธอที่บริเวณภูเขาฮาล์ฟโดมในอุทยานแห่งชาติโยเซมิติ ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของนักปีนเขา
พ่อลูกทั้งสองปีนขึ้นไปทางเส้นทางสุดท้ายสู่ยอดเขาระยะ 400 ฟุต (ราว 121 เมตร) อย่างราบรื่น โดยอาศัยสายเคเบิลที่ติดตั้งอยู่ตามเส้นทางการปีนเขาที่จัดไว้ให้ และสามารถขึ้นไปยืนชื่นชมวิวที่สวยงามจากยอดเขา
แต่ระหว่างทางที่ทั้งสองปีนกลับลงมา ก็พบว่าเริ่มมีกลุ่มเมฆดำก่อตัวซึ่งทำให้โจนาธานเป็นกังวลมาก จึงชวนลูกสาวให้รีบกลับลงไปข้างล่างเพราะการติดฝนอยู่บนยอดเขาหินที่แทบจะไม่มีที่หลบไม่ใช่เรื่องน่าสนุก
ในวันนั้น เกรซสวมรองเท้าปีนเขาคู่ใหม่เอี่ยม แต่เมื่อฝนเริ่มตกลงมาเรื่อย ๆ เธอก็มองเห็นปัญหาขณะที่ปีนลงมาได้ 3 ใน 4 ของระยะทางลงจากยอดเขาที่สูง 4,800 ฟุตหรือเกือบ 1,500 เมตร
พ่อลูกทั้งสองต้องหยุดระหว่างทาง เพราะไม่ต้องการแซงหน้านักปีนเขาอ่อนประสบการณ์ที่พยายามจะกลับลงไปสู่พื้นที่ราบเช่นกัน
ก่อนที่โจนาธานจะหันไปปลอบลูกสาวให้ใจเย็น ๆ และค่อย ๆ ปีนลงไปนั้น เกรซก็พูดประโยคสุดท้ายกับพ่อของเธอว่า “พ่อคะ รองเท้าหนูลื่นมากเลย”
หลังจากที่โจนาธานหันไปให้คำแนะนำลูกสาวเพียงครู่เดียว เธอก็ลื่นไถลลงเขาผ่านตัวโจนาธานซึ่งมองอย่างสุดช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
พ่อผู้สูญเสียเล่าว่าร่างลูกสาวของเขาไถลผ่านเขาไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็วสู่พื้นเบื้องล่าง “มันเกิดขึ้นเร็วมาก ผมพยายามจะคว้าตัวลูก แต่เธอหายไปแล้ว”
โจนาธานบอกว่าลูกสาวของเขาตกลงไปราว 200-300 ฟุต หรือเกือบ 100 เมตร และคาดว่าศีรษะของเธอไปกระแทกก้อนหินเข้าระหว่างที่ตกลงไป ตัวเขาเองไม่สามารถลงไปยังจุดที่ลูกสาวตกลงไปได้และได้แต่อาศัยนักปีนเขาคนอื่น ๆ ที่โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ
โจนาธานไม่ยอมแพ้และพยายามรักษาความหวังไว้ระหว่างนั้นว่าลูกสาวของเขาอาจจะยังรอดชีวิต เขาร้องตะโกนไปถึงลูกสาวว่า “พ่ออยู่นี่นะ พ่อจะไม่ทิ้งลูก ถ้าลูกได้ยินเสียงพ่อก็ส่งสัญญาณมา พ่อรักลูกนะ”
ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่มาช่วย โจนาธานและนักปีนเขาคนอื่น ๆ ต่างพากันสวดภาวนาขอให้เกรซปลอดภัย ซึ่งการรอคอยความช่วยเหลือนั้นกินเวลาถึง 3 ชม.
เมื่อเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยมาถึงจุดที่เกรซตกลงไป แต่เจ้าหน้าที่ก็พบว่าเธอเสียชีวิตไปแล้ว และผลจากการชันสูตรศพจากฝ่ายชันสูตรของสำนักงานเขตมาริโปซาเคาน์ตีก็ระบุว่ากะโหลกศีรษะของเกรซแตก ทำให้เธอเสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ
โจนาธานกล่าวในที่สุดว่าเขาโล่งใจที่ลูกสาวเสียชีวิตตั้งแต่ตอนที่ตกเขา เพราะเธอจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดทรมาน
ข้อมูลจากเว็บไซต์การท่องเที่ยว The World Travel Guy ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากการใช้เส้นทางติดตั้งสายเคเบิลที่มุ่งสู่ยอดเขาฮาล์ฟโดมอย่างน้อย 15 ราย ตั้งแต่ปี 2491 เป็นต้นมา
ผู้ที่จะปีนขึ้นสู่ยอดเขาในเส้นทางดังกล่าวจะต้องมีใบอนุญาตจากทางการ และเจ้าหน้าที่จะไม่แนะนำให้ปีนขึ้นไปเมื่อมีกลุ่มเมฆฝนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงหรือพื้นที่บริเวณนั้นเปียกชุ่มด้วยน้ำฝน เนื่องจากเป็นเส้นทางที่อันตราย แม้จะมีอุปกรณ์ช่วยปีนเขาติดตั้งไว้แล้ว
ที่มา : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, Facebook / Jonathan Rohloff
