สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ว่า ข้อมูลเบื้องต้นจากซี3เอส แสดงให้เห็นว่า อุณหภูมิเฉลี่ยรายวันทั่วโลก ในวันจันทร์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 17.15 องศาเซลเซียส นับเป็นวันที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ เท่าที่เคยมีการบันทึกไว้

ทั้งนี้ ตัวเลขข้างต้นสูงกว่าสถิติก่อนหน้า 0.06 องศาเซลเซียส จากเดิมที่ 17.09 องศาเซลเซียส ซึ่งได้รับการบันทึกเมื่อวันที่ 21 ก.ค. หรือห่างกันเพียงวันเดียวเท่านั้น

“นี่คือสิ่งที่วิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศบอกกับเราว่าจะเกิดขึ้น หากโลกยังคงเผาถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติต่อไป ซึ่งอากาศจะร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าพวกเราจะหยุดเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล และบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์” นายจอยซ์ คีมูไต นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศ จากมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน กล่าว

อย่างไรก็ตาม ซี3เอส ซึ่งใช้ข้อมูลจากดาวเทียมเพื่ออัปเดตอุณหภูมิอากาศและน้ำทั่วโลก ให้ใกล้เคียงกับเวลาจริง ระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงตัวเลขชั่วคราว และค่าอุณหภูมิเฉลี่ยสุดท้าย อาจมีความแตกต่างเล็กน้อย

นอกจากนี้ ซี3เอส ระบุเสริมว่า อุณหภูมิรายวันอาจสูงกว่าเดิมในอีกไม่กี่วัน ก่อนที่จะลดลงตามที่คาดการณ์ไว้ แม้อาจมีความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์หลังจากนี้ก็ตาม

อนึ่ง ภาวะโลกร้อนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่ยาวนาน รุนแรง และบ่อยครั้งมากขึ้น อีกทั้งในปีนี้ ก็เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ทั่วโลกเช่นกัน ซึ่งอากาศร้อนเป็นประวัติการณ์ ส่งผลกระทบต่อหลายทวีป ไม่ว่าจะเป็น เอเชีย, อเมริกาเหนือ และยุโรป โดยคลื่นความร้อนและไฟป่า สร้างความเสียหายอย่างหนักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AFP