สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล แถลงต่อที่ประชุมใหญ่ของสภาคองเกรส ในกรุงวอชิงตัน ว่าสหรัฐและอิสราเอลต้องร่วมกันสร้างพันธมิตรความมั่นคง เพื่อเผชิญหน้าและรับมือกับภัยคุกคามจากอิหร่านที่มากขึ้นทุกขณะ และเชิญชวนทุกประเทศที่ “ต้องการสร้างสันติภาพร่วมกับอิสราเอล” ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกรอบความร่วมมือนี้


ขณะเดียวกัน เนทันยาฮูกล่าวว่า อิหร่าน “เป็นส่วนหนึ่งของอักษะแห่งความชั่วร้าย” ซึ่งอยู่เบื้องหลังการสังหารแทบทุกรูปแบบในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงการที่รัฐบาลเตหะราน คือผู้ให้ความสนับสนุนกลุ่มฮามาส ในการโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 คร่าชีวิตประชาชนในประเทศ 1,197 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน

การประท้วงต่อต้านอิสราเอล และสนับสนุนปาเลสไตน์ บนถนนเข้าสู่อาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน ระหว่างนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กำลังกล่าวสุนทรพจน์


ทั้งนี้ ผู้นำอิสราเอลแสดงความเชื่อมั่น ว่าจะสามารถช่วยเหลือตัวประกันที่ยังคงตกค้างอยู่ในฉนวนกาซาอีกราว 114 คน ตามข้อมูลข่าวกรองของอิสราเอล และเน้นย้ำว่า ต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารเท่านั้น จึงจะสามารถกดดันและเอาชนะกลุ่มฮามาสได้ พร้อมทั้งเร่งความสนับสนุนเพิ่มเติมจากสหรัฐ เพื่อให้สงครามครั้งนี้ยุติเร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 39,000 ราย


อนึ่ง เนทันยาฮูเป็นผู้นำต่างประเทศคนที่สองในประวัติศาสตร์สหรัฐ ซึ่งกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสแล้ว 4 ครั้ง นับตั้งแต่ เซอร์วินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร แต่การกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ เผชิญกับการต่อต้านจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะจากภายในสภาคองเกรส ที่สมาชิกจำนวนหนึ่งไม่เข้ารับฟัง เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านการทำสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซา และด้านนอกอาคารรัฐสภาเต็มไปด้วยการประท้วงต่อต้านอิสราเอล.

เครดิตภาพ : AFP