เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมราชทัณฑ์ โดยส่วนประชาสัมพันธ์ ได้เผยแพร่เอกสารข่าวแจกสื่อมวลชน ระบุใจความว่า จากกรณีการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในหลายพื้นที่ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม ดำเนินมาตรการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน นั้น

กรมราชทัณฑ์ตระหนักดีว่าขณะนี้การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเป็นความเดือดร้อนของประชาชนในหลายพื้นที่ ดังนั้น กรมราชทัณฑ์ จึงพร้อมนำศักยภาพขององค์กรเข้ามาช่วยสนับสนุนการแก้ไขอย่างบูรณาการกับทุกภาคส่วน และลงมือปฏิบัติการเชิงรุกในหลายมิติตามนโยบายของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยมีแผนปฏิบัติการเชิงรุก ดังนี้

1.สนับสนุนการบริโภคปลาหมอคางดำ โดยกรมราชทัณฑ์ได้พิจารณาปรับเปลี่ยนรายการอาหารดิบรายสิ่ง โดยจะทำหนังสือไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เป็นคู่สัญญากับเรือนจำ เพื่อขอความร่วมมือในการจัดส่งปลาหมอคางดำไปทำอาหารแทนปลาชนิดอื่น 2.สนับสนุนกิจกรรมจับปลาหมอคางดำ โดยนำผู้ต้องขังที่ผ่านเกณฑ์ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการส่งนักโทษเด็ดขาดออกไปทำงานสาธารณะ หรืองานอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ พ.ศ. 2566 (มีทักษะด้านการประมง/จับปลา) ออกมาจับปลาหมอคางดำให้กับภาครัฐ ชุมชน และภาคสังคม ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากปลาหมอคางดำ โดยสามารถสอบถามมายังเรือนจำ/ทัณฑสถานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงให้เรือนจำและทัณฑสถานติดต่อไปยังจังหวัด เพื่อให้ความร่วมมือในกิจกรรมดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ภารกิจดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามหลักมาตรฐานความปลอดภัยจากการทำงานผู้ต้องขังนอกเรือนจำ สอดคล้องตามหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ได้ปรับเปลี่ยนรายการอาหารดิบรายสิ่งที่จัดเลี้ยงผู้ต้องขังในส่วนของผลไม้ เพื่อช่วยระบายสินค้าเกษตรเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรอีกทางหนึ่ง กรมราชทัณฑ์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการนำผู้ต้องขังออกทำงานสาธารณะช่วยเหลือสังคม นอกจากจะเป็นการช่วยบรรเทาทุกข์ให้ภาครัฐ ชุมชนและภาคประชาชนแล้ว ยังเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีต่อสังคมและปลูกฝังจิตสาธารณะให้แก่ผู้ต้องขังได้ทำกิจกรรมตอบแทนสังคมเพื่อชดเชยความผิดที่ตนได้กระทำ พร้อมกลับตัวเป็นพลเมืองดีภายหลังพ้นโทษต่อไป.