เมื่อวันที่ 24 ก.ค. จากกรณีญาติและชาวบ้านร้องสื่อขอทวงความเป็นธรรม หลังสามเณรวัดทุ่งใหญ่ วัย 15 ปี ซึ่งเดินทางไปช่วยงานวัดกมลศรี จ.ตรัง ถูกพระลูกวัดดังกล่าวทำร้ายร่างกายจนสลบ ทราบชื่อภายหลังคือ หลวงยุทธิ์ กำลังใช้มือและหน้าแข้งของตัวเองกดทับลำตัว ศีรษะ และมือของสามเณรเบล พร้อมกับด่าแม่สามเณร และด่าตะคอกด้วยเสียงอันดัง เหมือนคนคลุ้มคลั่งคุมสติตัวเองไม่ได้ พร้อมถามสามเณรเบล เป็นภาษาใต้ว่า “Xกลับไปแล้ว Xกลับมาทำไม” และยังทำร้ายสามเณรเบลเป็นระยะๆ ด้วยการตบไปที่ศีรษะ และใบหน้าอย่างแรงหลายครั้ง

ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี สอบถามพฤติกรรมของพระสงฆ์ในกรณีดังกล่าวกับพระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า จากที่ตนได้ดูคลิปแล้วก็เกิดความสังเวช เวทนา สงสารสามเณร พระสงฆ์รูปดังกล่าวที่ทำพฤติกรรมแบบนี้เรียกได้ว่า หลุด ขาดสมณสัญญาหมดความหมายรู้ เหี้ยมโหด ซาดิสม์ ทำร้ายร่างกายเณรจนสลบ เหมือนจะฆ่าเณรให้ตาย เท่าที่อาตมาฟังที่เณรพูดว่าถูกกระทำแบบนี้มาหลายวันแล้ว จึงเห็นว่าพระแบบนี้ไม่ควรเอาไว้ ถึงอยู่ต่อก็ปกครองยาก ทางเจ้าอาวาสหรือสำนักพุทธในจังหวัดควรจัดการให้ออกไป เกรงว่าหากอยู่ต่อจะทำพฤติกรรมแบบนี้อีก

ทั้งนี้พระสงฆ์ที่อยู่ข้างๆ ยังไม่ช่วยห้ามปราม เพิกเฉย กลัวเพียงคำขู่ว่า “ใครช่วยเดี๋ยวโดนอีก” อย่างไรก็ตามหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกไม่ว่าจะเป็นเณรหรือคนที่อยู่ในเหตุการณ์ว่า หากยังอยู่แบบนี้จะทำให้ศาสนาเสื่อม ต้องกล้าหาญไปบอกพ่อแม่ หรือฆราวาสรีบให้มาจัดการพระเลวๆ แบบนี้อย่างเร่งด่วน ประเทศไทยมีกฏหมาย

ส่วนในกรณีที่เณรทำผิดวินัย หรือดื้อพูดไม่ฟัง มันมีหลายวิธีที่ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายแบบนี้ หากเณรทำผิดก็ตักเตือน หากผิดครั้งที่ 2 หรือครั้งที่ 3 เตือนแล้วไม่ฟัง ให้หยุดพฤติกรรมก็ให้ไล่ออกจากวัดไป ไม่ใช่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายแบบนี้ ซึ่งเท่าที่ดูข่าวเกี่ยวกับพระสงฆ์มาทั้งปี กรณีนี้เหมือนหวังจะเอาให้ตาย เป็นการกระทำซึ่งถือว่ารุนแรงมาก