นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนต่างพากันให้ความสนใจ และติดตามกันอยู่ไม่น้อย หลังจากที่นักแสดงชื่อดัง “หนุ่ม สุรวุฑ” ได้ออกมาโพสต์ระบายความในใจเกี่ยวกับเงินค่าตัว เนื่องจากละครจบไปนานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เงินสักที ซึ่งได้ออกมาอัปเดตสาเหตุที่ไม่ได้เงินค่าตัวว่า “พี่บอกผมว่าละครขาดทุน นักแสดงต้องรับผิดชอบด้วยเหรอครับ? แล้วถ้าได้กำไรพี่จะแบ่งพวกผมเหรอครับ? นักแสดงอีกหลายคนก็รออยู่เช่นกันครับ” จนทำให้หลายคนยังคงติดตามความคืบหน้าของประเด็นดังกล่าว ตามที่ข่าวเคยเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด “กอล์ฟ-อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา” นักแสดงหนุ่มที่ได้ร่วมแสดงละครเรื่องดังกล่าว และพอจะรู้เรื่องราวของ หนุ่ม สุรวุฑ ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเรื่องราวในครั้งนี้ด้วยว่า “ก็ผมก็ได้ช้าเหมือนกันเหมือนของพี่หนุ่ม แต่ในส่วนของผมก็ได้ติดตาม และได้ครบเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าพี่หนุ่มยังค้างอยู่ และมีนักแสดงอีกหลายๆ ท่าน ซึ่งผมเข้าใจในหน้าที่ของหลายๆ คนนะ ใครทำงานก็อยากได้เงินเนอะ อย่างพี่หนุ่มทำงานก็อยากได้เงินไปเลี้ยงครอบครัว เราก็ให้กำลังใจในฐานะอาชีพเดียวกัน เราก็มีคุยกัน ล่าสุดไปนั่งคุยกันหลายชั่วโมงมาก (ปรับทุกข์?) ใช่ครับ คุยกันตลอด เราก็พยายามแก้ปัญหา พี่หนุ่มก็พยายามแก้ปัญหา ค่อยๆ ทำให้มันอยู่ในขอบเขตของกฎหมายด้วย จริงๆ แล้วละครเล่นจบไปแล้ว 2 ปี จริงๆ เริ่มเปิดกล้องไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่ก็มีทยอยจ่ายมาเรื่อยๆ แต่ส่วนตัวผมก็ได้มาเรียบร้อย เราก็เข้าใจที่เขาประสบปัญหาเหมือนกัน ผมว่านะ”

กอล์ฟ อนุวัฒน์ เผยว่า “ถ้าถามว่าพี่หนุ่มเครียดไหม เครียด เพราะว่าอย่างใครหลายๆ คนก็จะมีคนข้างหลังที่ต้องดูแล พ่อแม่ ลูกเมีย ก็มีเครียด แต่ก็ไม่รู้ทำยังไง มันก็ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ในส่วนของจำนวนตัวเงิน ผมไม่แน่ใจว่าขนาดไหน แต่ว่าเท่าที่คุยคือเยอะอยู่ (6 หลัก?) ประมาณนั้น แต่จะพูดยังไงดี ไม่อยากพูดเยอะ แต่ก็มีนักแสดงท่านอื่นๆ อีกที่ยังค้างอยู่เหมือนกัน มูลค่ารวมไม่ทราบเลย น่าจะหลักล้าน ที่คาดว่านะสำหรับการติดต่อ อันนี้ผมไม่ได้เป็นคนติดต่อ แต่เท่าที่พี่หนุ่มเล่าให้ฟังมีติดต่อและได้คุยกันตลอดเวลา เขาไม่ได้หนีไปไหน ทางนั้นก็พยายามแก้ปัญหาอยู่เหมือนกัน ก็เข้าใจ แต่ด้วยระยะเวลาที่นาน อยากได้ไม่ตรงกัน ก็เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมา เขาไม่ได้บอกนะ แต่ว่าทำไมถึงล่าช้า ส่วนตัวผมพอจะคาดเดาได้ แต่ผมพูดไม่ได้นะ ผมเข้าใจเขานะทางผู้จัด จริงๆ มันมี 2 มุม มุมหนึ่งถ้าเราโดนก็จะรู้สึกนอยด์ เราทำงานก็อยากได้เงิน เราไม่ได้ต้องการอะไร อีกมุมหนึ่งการเกิดปัญหาแบบนี้ มันคือสิ่งที่เขาควรแก้ไข หาวิธีก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ปล่อยคาราคาซัง หรือว่าเจรจาไปเลยว่าว่าเป็นแบบไหน เรียกมาคุยเลย มาเจอกัน คุยปัญหากันตรงๆ ผมว่าเราอยู่วงการเดียวกันน่าจะคุยกันน่าจะช่วยเหลือกันได้

อย่างพี่หนุ่มก็มีการคุยเรื่องคดี มีการปรึกษาทางทนายความ ซึ่งผมว่าเขาน่าจะหาทางเจรจาไกล่เกลี่ยมากกว่า ให้มันซอฟต์ลงมากกว่า จริงๆ พี่หนุ่มไม่ได้อยากมีเรื่อง ไม่ได้อยากให้เป็นข่าวขนาดนั้น แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ก็เป็นเรื่องปกติ ผมอยากให้ไกล่เกลี่ยให้ลงตัวไม่อยากให้มีเรื่องอะไรมากกว่า (หลังจากนี้ต้องตั้งรับป้องกันมั้ย?) ก็มีนะ แต่ว่าอย่างผมก็เล่นละครกับพี่ฉอด (สายทิพย์) อยู่บ่อยๆ ก็คงไม่หนีไปไหนนะ (หัวเราะ) เดี๋ยวนี้มีค่ายใหม่ๆ เยอะมาก อันนี้ต้องระวัง ผมว่ามีที่ไม่พูดอีกเยอะ แล้วเดี๋ยวมีกฎหมาย มีพ.ร.บ.ทวงหนี้ ก็เลยพูดไม่ได้จริงๆ ครับ ย่อก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้ มันก็เลยยาก แล้วเป็นคดีแพ่งนี่มันยากมาก”..

ขอบคุณภาพประกอบ : golf___anuwat