จากกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ลงนามแก้ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเงินบำรุงของหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2567 โดยระบุว่า เพื่อเปิดโอกาสให้ รพ. สามารถนำเงินบำรุงของ รพ. มาใช้จ่ายเป็นค่าก่อสร้างอาคารบ้านพัก สำหรับข้าราชการ หรือบุคลากรของ รพ.ได้ ซึ่งจะทำให้การแก้ปัญหาขาดแคลนอาคารบ้านพัก หรืออาคารบ้านพักเดิมชำรุดทรุดโทรม ได้รับการแก้ปัญหาเร็วขึ้น แต่ปรากฏว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า การที่แก้ไขระเบียบเพื่อนำเงินบำรุง รพ.มาใช้แทน เพราะต้องรัดเข็มขัดการใช้งบประมาณที่ถูกตัด ถูกดึง เนื่องจากรัฐมีปัญหางบประมาณไม่เพียงพอ โดยเฉพาะการเติมเงินในโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทหรือไม่

ล่าสุด วันที่ 24 ก.ค. ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีกระแสเซฟเงิน สำหรับโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่า “ไม่ใช่ ไม่เกี่ยวๆ กันเลย แต่เป็นสิ่งที่เราอยากพัฒนาในส่วนที่เราขาด แต่ไม่ได้เอามาใช้ทั้งหมด ในขณะที่ผู้บริหารหน่วยราชการนั้นอยากใช้อะไร เราก็เปิดทางให้เขาใช้ได้ หรือวันข้างหน้า เราไม่รู้ว่าแนวทางการบริหารการเงินการคลังภาครัฐจะเป็นอย่างไร ดังนั้นยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินดิจิทัลเลย”   

ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงระเบียบเงินบำรุงว่า เดิมมีการออกระเบียบเงินบำรุงประมาณปี 2560 แต่มีข้อจำกัดในการใช้ เช่น 1.เรื่องของวงเงิน บางครั้งต้องไปเสนอของบประมาณจากกระทรวงการคลัง 2.สมมุติจะนำเงินไปสร้างบ้านพักเจ้าหน้าที่ แต่ระเบียบเก่าเขียนไม่ชัดเจนว่า ต้องใช้สำหรับซ่อมแซม จึงต้องมีการแก้ไขระเบียบใหม่เขียนให้ชัดเจนขึ้น อย่างการสร้างบ้านพักเจ้าหน้าที่ เป็นต้น  เพื่อให้สามารถสร้างได้

เมื่อถามว่าการใช้เงินบำรุง จะไม่ติดขัดหรือ เนื่องจากหลายคนกังวลมีจำกัด นพ.โอภาส กล่าวว่า การใช้เงินบำรุงไม่ใช่ว่า ผอ.รพ.จะเซ็นได้ตามใจชอบ  ต้องมีแผนประจำปี จะอนุมัติได้ก็ต้องเป็นไปตามระดับชั้น เช่น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด หากดูแล้ว เช่น มีเงินแค่ 10 บาท แต่จะใช้ 50 บาท ทาง สสจ.ก็ไม่อนุมัติ ซึ่งระเบียบเงินบำรุงเขียนไว้ว่า การใช้เงินบำรุงต้องพิจารณาถึงฐานะเงินบำรุงด้วย มีเขียนไว้ในระเบียบ

“ระเบียบเงินบำรุงฉบับนี้จะช่วยให้การดำเนินงานง่ายขึ้น ของเดิมกว่าจะสร้างบ้านพักต้องมาตีความกันว่า สร้างได้หรือไม่ได้ จะชัดเจนขึ้นว่า การสร้างบ้านพักให้เจ้าหน้าที่ก็เพื่อจะได้ปฏิบัติงานดูแลคนไข้ได้ 24 ชั่วโมง” นพ.โอภาส กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้เงินบำรุงยังเพียงพอใช่หรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า ดูเหมือนแนวโน้มค่อยๆ ลดลงจากเดิม แต่ต้องหารือในภาพรวมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูฐานะเงินบำรุง รวมถึงงบประมาณที่ได้จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เข้าใจว่าจะมีตัวแทนของเครือข่ายผู้ให้บริการ ชมรม รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป กับเอกชนจะมาหารือกับทางกระทรวงสาธารณสุข เพื่อทบทวนเรื่องเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นต้น

เมื่อถามกรณีงบสร้างบ้านพักจากนี้คือ จะของบกลางเทอมไม่ได้ใช่หรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า  กลางเทอมไว้เหตุจำเป็นเร่งด่วน เช่น บ้านพักถูกพายุถล่ม ก็ทำได้ แต่คนอนุมัติก็ต้องมีอำนาจเหนือขึ้นไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า การใช้เงินบำรุงเพื่อสร้างบ้านพัก เพื่อเซฟงบฯ ไว้สำหรับเงินดิจิทัล นพ.โอภาส กล่าวว่า ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย คนละเรื่องเดียวกัน ระเบียบเงินบำรุงที่ปรับแก้ใช้เวลาตั้งปีกว่าๆ ไม่ใช่ว่าจะผ่านกันง่ายๆ คนที่จะเห็นชอบคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนำกลับมาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามออกประกาศ โดยขั้นตอนใช้เวลาตั้งปีกว่าจึงจะออกเป็นประกาศดังกล่าว ไม่ใช่เพิ่งคิดเพิ่งทำแต่อย่างใด