กำลังเป็นกระแสฮือฮาสนั่นโซเชียลอยู่ในขณะนี้ หลังล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 67 มีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก “Drama-addict” โพสต์เตือนภัยคนที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ และได้นำของมีค่าขึ้นเครื่องบินไปด้วย หลังมีคนไทยเดินทางไปฮ่องกงพร้อมครอบครัว แต่กลับเจอแก๊งมิจฉาชีพขโมยของมีค่าไป ซึ่งคาดว่าแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ น่าจะทำกันเป็นขบวนการ

โดยเจ้าของเรื่องราวเล่าว่า ตนกับครอบครัวได้เดินทางจากฮ่องกง กลับไปเที่ยวที่เมืองไทย เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 67 และได้ขึ้นเครื่องกลับฮ่องกงด้วยเที่ยวบิน TG xxx ซึ่งเป็นเครื่องเล็ก คนไม่ค่อยนั่ง เพราะไม่มีจอทีวี ตนกับครอบครัวจึงนั่ง 43J 43H 43K และบริเวณรอบๆ จะไม่มีคนนั่ง ทั้งด้านซ้าย และด้านหน้า ส่วนด้านหลังถัดไป 2-3 แถว จะมีกลุ่มชายจีนแผ่นดินใหญ่นั่งอยู่

หลังจาก Take-off เรียบร้อยแล้ว ภรรยาของตนได้เปิดกระเป๋า Laptop เพื่อจะหยิบ Ipad แล้วเอากระเป๋าไว้ที่เดิม (ในกระเป๋า Laptop มีกระเป๋าซิปอีก 1 ใบ โดยมีเงินสดอยู่ประมาณ 188,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 8.7 แสนบาท) ต่อจากนั้น หลังจากทานอาหารบนเครื่อง ตนกับภรรยาและลูกสาวก็ได้หลับไป พอตื่นมาก็นั่งดูหนังที่โหลดไว้ในโทรศัพท์ จนกระทั่งเครื่องเตรียมลงจอด หลังจากเครื่องบินลงจอดแล้ว ทุกคนก็ลุกกันหมด เพื่อเตรียมหยิบของสัมภาระ และเตรียมลงจากเครื่อง แต่ในส่วนตัวตนและครอบครัวนั้น ก็มีสัมภาระมาเยอะ เพราะซื้อขนมของฝาก ก็เลยบอกให้คนข้างหลังเดินผ่านไปก่อนเลย ตนจะลงทีหลัง

ต่อมา ความผิดปกติเริ่มตรงนี้ มีกลุ่มชาย 3-4 คน เขาพูดภาษาจีนกลางแล้วบอกว่า “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบ ค่อยๆ เก็บของ ประตูยังไม่เปิดเลย” แล้วกลุ่มชายพวกนี้ก็ยืนบล็อกไม่ให้คนข้างหลังออกไปก่อน ตนก็บอกว่า “ไปก่อนเลย เพราะกระเป๋าตนน่าจะกลิ้งไปอยู่ข้างหลังที่ช่องเก็บของเหนือหัว” (ตอนแรกคิดว่าน่าจะเพราะตอนเครื่องขึ้น-ลง-เลี้ยว จึงทำให้กระเป๋า Laptop และ Hand carry Luggage ไหลไปข้างหลัง) จากนั้นกลุ่มคนพวกนี้ก็ยังบอกว่า ใช่ใบนี้หรือเปล่า? (คืออยู่เหนือหัวที่นั่งเขาเลย) ตนก็ไม่ทันได้คิดอะไร เพราะคุยกับลูกสาวอยู่ แต่ก็ได้เอะใจนิดนึง (ปกตินั่งเครื่องบินหลายรอบ ไม่เคยเจอคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่นิสัยดีแบบนี้ มีช่วยยกกระเป๋าให้ด้วย เพราะปกติไม่มีใครจับสัมภาระของใครอยู่แล้ว แบบนี้มีพิรุธ)

หลังจากนั้นก็มีผู้ชายจีนสูงประมาณ 165 เซนติเมตร พยายามชะโงกหัว เหมือนจะพยายามเบียดตัวเพื่อไปก่อน เห็นทำแบบนี้ตั้งแต่ไฟโชว์ให้ปลดสายรัดเข็มขัด แล้วแต่โดนบล็อกอยู่ (มีพิรุธ) แล้วพ่อหนุ่มคนที่พยายามจะเดินออกไปก่อน ก็เบียดออกไปจนได้ คือเหมือนรีบมากๆ ปกติคนรอลงเครื่องจะยืนนิ่งๆ แต่นี่ยืนรอแบบขยับขยุกขยิก และชะโงกหน้าตลอดเวลา ต่อมาตนก็กลับบ้าน โดยครอบครัวขับรถมารับ แล้วตนก็ขับรถไปส่งภรรยาที่ออฟฟิศ แล้วก็ขับรถกลับบ้านพร้อมกับสัมภาระ เมื่อพอถึงบ้านก็จะนำเงินไทย เงินฮ่องกง และพาสปอร์ตใส่ตู้เซฟ พอเปิดกระเป๋าดู ก็เห็นทรงกระเป๋าแบนแฟบ จึงรีบเปิดกระเป๋า จึงได้รู้ว่าเงินได้หายไปแล้ว

จากนั้น ตนพยายามนั่งคิด ว่าจะมีช่วงเวลาไหนที่โจรจะขโมยได้บ้าง จึงรู้ว่าเหตุเกิดบนเครื่องบิน ตนเห็นเงินครั้งสุดท้าย ตอนผ่าน Security Check point (กระเป๋าเงินในกระเป๋า Laptop ยังพองโตอยู่) และกระเป๋าเงินอยู่ใน Eyesight ตลอดเวลา จนกระทั่งนั่งบนเครื่อง กลุ่มคนจีนมีท่าทีแปลกๆ ทั้งบล็อกทางเดิน และคนที่พยายามจะแทรกไป โดยไม่ได้พูดขอทาง หรือขอโทษตอนที่เบียดแทรกตัวไปได้ หรือแม้กระทั่งใจดีช่วยหยิบสัมภาระที่ไหลไปอยู่ข้างหลัง เหมือนเขาจะมองดูว่าเราจะรู้ตัวหรือเปล่า ส่วนคนถือเงินน่าจะเป็นคนที่พยายามออกไปจากเครื่องก่อน

ดังนั้น ทั้งหมดนี้ตนได้เข้าแจ้งความที่ฮ่องกง แล้ววันต่อมาก็มีข่าวว่า มีคนโดยขโมยเงินสดบนเครื่องบิน 25,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 1.1 แสนกว่า) ดังนั้นเที่ยวบินนี้ โดนขโมยเงินสดไป 213,000 ดอลลาร์ฮ่องกง ประมาณ 958,000 บาท โดยประมาณ ทั้งนี้ตนจะกลับไทยต้นเดือนสิงหาคม เพื่อจะไปแจ้งความที่ไทย และจะแจ้งสายการบิน

อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะปรึกษากัปตันว่า ถ้าแจ้งความแล้ว ทางสายการบินสามารถเช็กตัวตนและกล้องวงจรปิดได้หรือเปล่า เพื่อที่จะได้เอาข้อมูลพาสปอร์ตของคนเหล่านี้ ไปขึ้นแบล็กลิสต์ให้กับ ตม.ไทย และ ฮ่องกง อีกทั้งตนไม่คิดว่าจะได้เงินคืนแต่อย่างไร แต่ต้องการป้องกันไม่ให้มีผู้เสียหายเพิ่มเติม ถ้าหากทางผู้เสียหายและสายการบินร่วมมือกัน

ขอบคุณข้อมูล : Drama-addict