เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ภายหลังพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ควบคุมตัว นายเอกลักษณ์ หรือ เอก สายเต๊าะ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาในความผิดฐาน ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ, เอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ทำให้เสียทรัพย์, พาอาวุธ (มีด) ไปไนเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร, ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339 วรรคแรก วรรคสอง 188, 358, 371 และมาตรา 392 ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญาเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่ 21 ก.ค.-1 ส.ค. 2567

โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไปเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดีภายหลัง และผู้ต้องหาอยู่ระหว่างได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีอื่นซึ่งผู้ต้องหายังคงมีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามผู้เสียหายหลายคน อีกทั้งได้คุกคามและข่มขู่เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกันกับผู้ต้องหาอยู่ตลอดจนเกิดความเดือดร้อนและหวาดกลัวต่อผู้ต้องหา และคดีนี้อยู่ในความสนใจของสื่อมวลชนและประชาชนเป็นจำนวนมาก หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะกระทำพฤติกกรรรมข่มขู่คุกคามผู้เสียหายและประชาชนอีก

แห่ค้านประกัน ‘เอก สายเต๊าะ’ เจ้าตัวยิ้มระรื่น บ่ายยังไร้ญาติขอปล่อยชั่วคราว!

นอกจากพนักงานสอบสวนแล้ว ผู้เสียหายก็ยื่นคำร้องขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากหากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวหรือปล่อยตัวชั่วคราว ผู้เสียหายเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

และยังมีพยานสำคัญในคดียื่นขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากหากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวหรือปล่อยตัวชั่วคราว พยานเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องจากถูกผู้ต้องหาข่มขู่ คุกคาม และผู้ต้องหามีพฤติกรรมชอบไลฟ์สดผ่านทางโซเชียลโชว์อาวุธและใช้คำพูดข่มขู่ในลักษณะจะใช้ความรุนแรงพาดพิงถึงพยานหลายครั้ง

โดยศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตฝากขัง

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันนี้ไม่ปรากฏว่ามีญาติหรือทนายความมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว เอก สายเต๊าะ ผู้ต้องหา แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้นำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป.