เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่วัดบุณยประดิษฐ์ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เดินทางมาหลังได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.มะนาว อายุ 39 ปี (สงวนนามสกุล) เพื่อขอความเป็นธรรมกรณี นายกฤษณ์ ธรรมมล อายุ 41 ปี แฟนหนุ่ม พนักงานขับรถรับ-ส่งผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน ณข 3708 กรุงเทพมหานคร หลังเสียชีวิตจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก เพราะเข้ารับการรักษาล่าช้า จากการถูกตำรวจยื้อไม่ให้ไป รพ. อ้างว่าเมาแล้วขับเฉี่ยวชนคู่กรณี

โดย น.ส.มะนาว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 13 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา แฟนหนุ่มขับรถสนามบินไปรับลูกค้าจากสนามบินสุวรรณภูมิไปส่งที่โรงแรมย่านยานนาวา พอส่งลูกค้าเสร็จระหว่างเดินทางกลับ ปรากฏว่า แฟนหนุ่มโทรศัพท์หาบอกว่า ปวดหัวมากและอาเจียน จึงบอกให้แฟนไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ระหว่างขับรถไปโรงพยาบาลเริ่มมีอาการหนัก ไม่สามารถควบคุมรถได้ จึงประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนจยย.คันอื่นหลายคัน พอโทรศัพท์หาแฟนเบอร์แรกไม่รับสาย จึงโทรฯ เข้าอีกเครื่องซึ่งเชื่อมต่อกับระบบบลูทูธของรถ และรับสายอัตโนมัติ ตอนนั้นได้ยินเสียงคนเคาะกระจกรถ โวยวาย และบอกให้แฟนลงมาจากรถ แต่ไม่ได้ยินเสียงแฟน จึงวางสายไป

จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง แม่ของแฟนก็โทรศัพท์มาหาตน บอกว่าตำรวจโทรฯ มา บอกว่าแฟนเมาแล้วขับรถไปชนคันอื่น ถูกควบคุมตัวอยู่ที่โรงพัก ตอนนั้นตนติดธุระอยู่ต่างจังหวัด จึงให้แม่ไปที่โรงพักก่อน ระหว่างนั้นตนก็โทรศัพท์หาตำรวจเพื่อขอคุยกับแฟน และขอให้พาแฟนไปส่งโรงพยาบาลก่อน เพราะแฟนป่วย ยืนยันว่าแฟนไม่ได้เมา แต่ตำรวจไม่ยอมให้คุย บอกว่าแฟนไม่ยอมลงจากรถ และให้รีบตามบริษัทประกันมาที่ สน.ด่วน

กระทั่งเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ตนจึงวิดีโอคอลหาพี่ชายของแฟนที่อยู่ สน. พบว่าแฟนหมดสติไปแล้ว กู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล ถึงโรงพยาบาลเกือบ 4 ทุ่ม แพทย์ที่ให้การรักษาบอกว่ามาช้าไป หลังจากนั้นก็พยายามรักษาตามอาการอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน ก่อนเสียชีวิต ซึ่งในใบรับรองแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อตรวจสอบ GPS ย้อนหลัง พบว่าแฟนอยู่ที่โรงพักนานเกือบ 2 ชั่วโมง จึงมองว่า หากตำรวจนำส่งโรงพยาบาลเร็วกว่านี้ แฟนอาจไม่เสียชีวิต ขณะเดียวกันแพทย์ได้นำเลือดของแฟนหนุ่มไปตรวจหาแอลกอฮอล์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ

อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า แฟนไม่เคยมีพฤติกรรมดื่มแล้วขับ และถ้าผลตรวจออกมาพบว่า ไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดก็จะปรึกษากับฝ่ายกฎหมาย อาจจะดำเนินการกับตำรวจ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แฟนหนุ่ม อยากได้คำขอโทษจากตำรวจ เพราะวันนี้สูญเสียคนในครอบครัวไป และหลังเกิดเหตุตนและครอบครัวยังไม่ได้รับการขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบจากตำรวจเลย แม้กระทั่งพวงหรีดแสดงความเสียใจก็ยังไม่ได้รับ

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ 20240721_135137-1280x721.jpg

ด้าน นายเอกภพ ระบุว่า กรณีนี้เป็นบทเรียนราคาแพงให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้กล่าวโทษว่าตำรวจทำงานไม่ดีหรือบกพร่อง ซึ่งต้องใช้วิจารณญาณในการทำงานเพราะเป็นเรื่องของชีวิตคน แต่อยากให้ใช้ความระมัดระวัง พร้อมเน้นย้ำว่าเหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และในกรณีนี้ผู้เสียหายที่ถูกผู้ตายเฉี่ยวชน ยังมีความเห็นอกเห็นใจ บอกให้ตำรวจรีบพาผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว ผู้เสียหายยังบอกอีกว่าจากที่เข้าไปดูอาการผู้ตายเบื้องต้น ไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ติดที่ตัวเลย แต่ดูก็รู้แล้วว่าป่วย ไม่ใช่คนเมา.