นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ได้มีนโยบายให้กรมการค้าภายใน กำกับดูแลและตรวจสอบการรับซื้อปาล์มน้ำมันให้เป็นไปตามกฎหมายและเกิดความเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน อธิบดีฯ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน สนธิกำลังร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรวจสอบผู้ประกอบการรับซื้อปาล์มน้ำมัน (ลานเท) ในพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญ เพื่อดูแลไม่ให้มีการฉวยโอกาส กดราคารับซื้อ และให้มีการแสดงราคารับซื้ออย่างชัดเจน รวมทั้งป้องปรามไม่ให้มีการทำผลปาล์มร่วงโดยผิดธรรมชาติ ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

ล่าสุดได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจที่ได้ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบผู้ประกอบการรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน (ลานเท) ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยได้จับกุมลานเทที่กระทำความผิดฐานทำผลปาล์มร่วงโดยผิดธรรมชาติเพิ่มอีก 1 ราย ในพื้นที่ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ และได้ทำการยึดของกลางเป็นผลปาล์มร่วง และตะแกรงรางเท ส่งพนักงานสอบสวนในพื้นที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ข้อหาฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 25 พ.ศ. 2567 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ผลการดำเนินการจนถึงปัจจุบัน กรมการค้าภายในได้มีการดำเนินคดีลานเทที่มีพฤติกรรมฝ่าฝืน ประกาศดังกล่าวแล้ว จำนวน 5 ราย แบ่งเป็นจังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 ราย จังหวัดชุมพร 1 ราย และจังหวัดกระบี่ 2 ราย

นายอุดม กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเตือนให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายในเรื่องการรับซื้อผลปาล์มทะลายให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการรับซื้อ ตลอดจนการแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าน้ำมันปาล์มและผลปาล์มน้ำมัน รวมทั้งห้ามกระทำพฤติกรรมใดๆ ที่จะเป็นการทำให้ผลปาล์มร่วงอย่าง ไม่เป็นธรรมชาติ และหากเกษตรกรรายใด ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายผลปาล์มน้ำมันหรือสินค้าเกษตรอื่น รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ทันที สำหรับกรณีมีการทำผลปาล์มร่วงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีการกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีไม่แจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้งตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542