สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระราชาธิบดี สุลต่าน อิบราฮิม สุลต่าน อิสกันดาร์ แห่งรัฐยะโฮร์ เกิดขึ้นที่พระบรมมหาราชวัง ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีคณะสุลต่านจากอีก 8 รัฐ นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม และคณะรัฐมนตรี ตลอดจนแขกกิตติมศักดิ์อีกลายประเทศ รวมถึง สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไน


ทั้งนี้ สุลต่าน อิบราฮิม ทรงมีพระราชดำรัสในตอนหนึ่ง ว่าจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ความศรัทธา ความเป็นธรรม และความยุติธรรม เพื่อพสกนิกรทุกคน


ขณะเดียวกัน พระองค์ตรัสเกี่ยวกับการทรงทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของมาเลเซีย และทรงขอให้รัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น และสุดความสามารถ เพื่อการพัฒนาประเทศ และการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับชาวมาเลเซีย


อนึ่ง สุลต่าน อิบราฮิม เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์ที่ 17 แห่งมาเลเซีย เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังสภาผู้ปกครองแห่งมาเลเซีย ซึ่งประกอบด้วยสุลต่านจาก 9 รัฐ ทรงมีมติเห็นชอบร่วมกัน หลังการประชุมที่พระบรมมหาราชวัง ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ทรงเลือก

The Star


สำหรับตำแหน่งประมุขแห่งมาเลเซีย จะเป็นการครองราชย์หมุนเวียนกัน ระหว่างสุลต่านทั้ง 9 รัฐ ซึ่งแต่ละพระองค์จะทรงครองราชย์พระองค์ละ 5 ปี โดยสุลต่าน อิบราฮิม เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ ต่อจากสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่าน อับดุลเลาะห์ สุลต่าน อาห์หมัด ชาห์ แห่งรัฐปะหัง


ปัจจุบัน มาเลเซียอยู่ภายใต้การปกครองแบบสหพันธรัฐ มีสมเด็จพระราชาธิบดีเป็นประมุข อย่างไรก็ตาม ระบอบกษัตริย์ของมาเลเซียมีเอกลักษณ์เฉพาะ นอกจากนี้ แม้อำนาจบริหารทั้งหมดอยู่ในมือของนายกรัฐมนตรี แต่สมเด็จพระราชาธิบดี ทรงมีพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ และในระยะหลัง พระองค์ทรงลงไปคลี่คลายวิกฤติการเมืองในประเทศหลายต่อหลายครั้ง.

เครดิตภาพ : AFP