สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ว่า คณะตุลาการศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) ทั้ง 15 คน มีมติเป็นเอกฉันท์ร่วมกัน ในการให้ความเห็นเชิงปรึกษา “ซึ่งไม่ใช่คำพิพากษา” ว่านโยบายขยายอาณาเขตของอิสราเอลเข้าสู่ดินแดนปาเลสไตน์ ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา “คือการยึดครอง” และ “ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ” พร้อมทั้งขอให้อิสราเอลยุติดำเนินการดังกล่าว “โดยเร็วที่สุด”


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของศาลโลก เป็นไปตามมติของสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ที่มีมติเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อปลายปี 2565 ขอความคิดเห็นจากศาลโลก เกี่ยวกับ “ผลกระทบทางกฎหมาย” จากการยึดครองและเดินหน้าขยายอาณาเขตของอิสราเอล “บนดินแดนของปาเลสไตน์”


ขณะเดียวกัน นับเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ที่ศาลโลกมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยอิสราเอลยึดครองเขตเวสต์แบงก์ ฉนวนกาซา และฝั่งตะวันออกของนครเยรูซาเลม หลังชนะสงครามหกวัน เมื่อปี 2510 แม้ถอนทหารออกจากฉนวนกาซา เมื่อปี 2548 แต่จนถึงปัจจุบัน อิสราเอลยังคงควบคุมพรมแดนฉนวนกาซาและจุดผ่านแดนส่วนที่ติดกับอียิปต์


อนึ่ง ศาลโลกเคยให้ความเห็นเกี่ยวกับการยึดครองและขยายอาณาเขตของอิสราเอลมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2547 ว่า การตั้งแนวกั้นระหว่างพรมแดน “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” แต่อิสราเอลไม่ยอมรับและไม่เคยปฏิบัติตามการให้ความเห็นของศาลโลก

ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวถึงการให้ความเห็นครั้งล่าสุดของศาลโลก “เป็นการโกหก” เนื่องจาก “เป็นไปไม่ได้กับการที่ชาวยิวอาศัยอยู่บนดินแดนของตัวเอง จะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย” ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศปาเลสไตน์ออกแถลงการณ์ ยกย่องการให้ความเห็นของศาลโลก.

เครดิตภาพ : AFP