“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 4 เดือน ก่อนจะลดช่วงบวกและอ่อนค่ากลับมาในช่วงปลายสัปดาห์ หลังเงินดอลลาร์ ทยอยฟื้นตัวขึ้นตามทิศทางบอนด์ยีลด์สหรัฐ
เงินบาทแข็งค่าหลุดแนว 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 4 เดือนที่ 35.82 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงกลางสัปดาห์ ตามทิศทางการแข็งค่าของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย นำโดย เงินเยนซึ่งแข็งค่าขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ว่า ทางการญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดไม่ให้เงินเยนอ่อนค่าเร็ว นอกจากนี้ เงินบาทยังได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ของราคาทองคำในตลาดโลก ประกอบกับ ของเงินดอลลาร์ ยังคงอ่อนแอลงท่ามกลางกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกและกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบที่อ่อนค่ากว่าแนว 36.00 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง ตามจังหวะแรงขายทำกำไรทองคำในตลาดโลก ขณะที่ เงินดอลลาร์ ฟื้นตัวกลับมาตามทิศทางบอนด์ยีลด์สหรัฐ หลังจากที่ตลาดปรับตัวตอบรับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงที่เหลือของปีนี้ไปมากแล้ว ประกอบกับน่าจะมีแรงซื้อเงินดอลลาร์ ท่ามกลางแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ในช่วงปลายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
ในวันศุกร์ที่ 19 ก.ค. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 36.27 บาทต่อดอลลาร์ หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 4 เดือน 35.82 บาทต่อดอลลาร์ ในระหว่างสัปดาห์ เทียบกับระดับ 36.19 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (12 ก.ค. 67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 15-19 ก.ค. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,755.2 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 1,118.3 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 785.3 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 333 ล้านบาท)
สัปดาห์ถัดไป (22-26 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 36.00-36.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกเดือน มิ.ย. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์สกุลเงินในภูมิภาค และประเด็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือน มิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองของผู้บริโภคสหรัฐ เดือน ก.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 (advanced) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของธนาคารกลางจีน และดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ (เบื้องต้น) เดือน ก.ค. ของญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษและสหรัฐ ด้วยเช่นกัน