เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าแจ่มฟ้าช้อปปิ้งมอลล์ จ.ลำพูน นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงเหตุผล และความตั้งใจในการจัดกิจกรรม ‘ก้าวแรก อบจ. ก้าวต่อเปลี่ยนประเทศ‘ เพื่อเปิดตัว นายวีระเดช ภู่พิสิฐ ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารราชการส่วนจังหวัด(อบจ.) ลำพูน พรรคก้าวไกล ว่า วันนี้ตั้งแต่เช้า ตน และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แยกสายกันเป็นสองกลุ่ม โดยตนได้ไปรับฟังเรื่องร้องเรียนของพี่น้อง จ.ลำพูนที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องแม่น้ำลี้ที่เซาะริมตลิ่ง ที่ดิน รวมถึงบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนตลอดริมน้ำจนได้รับความเสียหาย ซึ่งหลายที่ก็เป็นปัญหามาหลายปีแล้ว และมีความน่าเป็นห่วงว่า ในปีนี้ หากไม่มีมาตรการในการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน จะทำให้ปัญหาที่น้ำเซาะที่ดินของชาวบ้านจนบ้านพัง จะรุนแรงมากขึ้น ในช่วงหน้าฝนของปีนี้

ด้านนายพิธาเอง ก็ได้ไปพบปะกับพี่น้องประชาชนหลายกลุ่มตั้งแต่เช้า และตอนเย็นก็ถือโอกาสจัดเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายกฯ อบจ.ลำพูนของพรรคก้าวไกล คือนายวีระเดช ซึ่งน่าจะเป็นว่าที่ผู้สมัครนายกฯ อบจ. ที่หนุ่มที่สุดในรอบนี้ รวมถึงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) ด้วย

ส่วนเหตุผลที่เลือกนายวีระเดชคืออะไร และจะมีความเชื่อมโยงกับผู้สมัครนายกฯ อบจ.เชียงใหม่อย่างไรบ้างนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เนื่องจากทั้งว่าที่ผู้สมัครนายกฯ อบจ.ลำพูน และว่าที่ผู้สมัครนายกฯ อบจ.เชียงใหม่ ทางกรรมการบริหารพรรคได้รับรองมาพอสมควรแล้ว และมีความพร้อมที่จะเริ่มเปิดตัว เพื่อเสนอตัวทำงานกับพี่น้องประชาชนแล้ว

นายชัยธวัช กล่าวว่า ทั้งจ.เชียงใหม่และลำพูน มีความเป็นบ้านพี่เมืองน้องกันอยู่แล้ว และมีแนวนโยบายในการยกระดับพัฒนาจังหวัดทั้งสองจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ทางด้านเศรษฐกิจในบางมิติ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องเชื่อมโยงกัน และส่งเสริมซึ่งกันและกัน 2 จังหวัดนี้แยกกันไม่ออก โดยเฉพาะมิติด้านเศรษฐกิจ และความเชื่อมโยงของผู้คน วันนี้เราจึงมาจัดกิจกรรมที่จ.ลำพูน และพรุ่งนี้จะมีกิจกรรม ‘Policy Fest เจียงใหม่ เอาแต๊‘ ที่จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะมีทั้งว่าที่ผู้สมัครนายกฯ อบจ., สส. และทีมนโยบายของพรรคก้าวไกล มาเปิดเวทีพูดคุยโดยละเอียด 

นายชัยธวัช เปิดเผยว่า กิจกรรมในวันพรุ่งนี้ ว่าที่ผู้สมัครนายกฯ อบจ.เชียงใหม่ และว่าที่ผู้สมัครนายกฯ อบจ.ลำพูน จะขึ้นเวทีเพื่อพูดถึงนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจคู่กันด้วย หรืออาจเรียกว่า เชียงใหม่-ลำพูน วัลเลย์ 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายพิธา เคยเปรียบเทียบว่า 2 พื้นที่นี้เหมือน โตเกียว-ชิบะ นายพิธา กล่าวว่า อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น แต่มีเมืองหนึ่งที่เป็นเมืองใหญ่ และมีอีกเมืองที่เป็นเมืองรอบนอกซึ่งทำให้การเดินทางสะดวก ทำให้ทุกคนสามารถเชื่อมโยงทั้งสองจังหวัดได้

ส่วนพื้นที่อื่นๆ เช่น จ.ราชบุรี และจ.ชลบุรีที่จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายกฯ อบจ. ด้วยนั้น นายพิธา กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 22 ก.ค.นี้ ตนจะไปจ.ราชบุรี ส่วนเหตุผลที่เลือกราชบุรีนั้น เนื่องจากเราจะทยอยเปิดตัวกันไปเรื่อยๆ 6-7 ที่ และจะมีการเผยแพร่ไว้ในเว็บไซต์ของพรรคให้ประชาชนไม่สับสนว่า จังหวัดใดที่เราปล่อยบ้าง แต่เป้าหมายสูงสุดเท่าที่เรายังมีเวลาอยู่ ตนคิดว่าน่าจะเป็นเลขสองหลัก อาจจะ 10-20 จังหวัดที่จะไป 

นายชัยธวัช กล่าวเสริมว่า การที่ทำให้ต้องเร่งเปิดตัว เนื่องจากนายกฯ อบจ.ราชบุรี ชิงลาออก จึงต้องมีการเลือกตั้งในต้นเดือน ก.ย.นี้

เมื่อถามถึงการประเมินจุดอ่อนจุดแข็งของคู่แข่งนายกฯ อบจ.เชียงใหม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า คิดว่าเป็นความสด ความใหม่ ความเป็นก้าวไกล อย่างนายวีระเดช ตนก็เห็นว่าเหมาะสม ตนเชื่อใจ เพราะนายวีระเดชเคยพิสูจน์ตัวเองมาตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลแล้ว มาก่อนตนอีก สิ่งที่ว่าที่ผู้สมัครนายกฯ อบจ.ลำพูน มีความชัดเจนคือ นโยบายการนำเศรษฐกิจ และการศึกษา มาเชื่อมโยงกัน ส่วนว่าที่ผู้สมัครนายกฯ อบจ.เชียงใหม่ ก็จะเน้นการนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาของคนเชียงใหม่ ยกตัวอย่าง โครงการกรีนเทค 

ส่วนกรณีที่น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต สส.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยท้าชิงเป็นว่าที่ผู้สมัครนายกฯ อบจ.เชียงใหม่ของพรรคก้าวไกล แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก และปัจจุบันก็เป็นสมาชิกของพรรคก้าวไกล จะยังเป็นแนวร่วมอยู่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องเป็นมากกว่าแนวร่วม เพราะน.ส.ทัศนีย์ ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ดังนั้น จะร่วมกันทำงาน เพื่อชัยชนะของว่าที่ผู้สมัครนายกฯ อบจ.เชียงใหม่ของพรรคก้าวไกล และร่วมทำงานอย่างอื่นจากนี้ต่อไปด้วย

เมื่อถามถึงกรณีที่สมาชิกพรรคก้าวไกลในจ.พระนครศรีอยุธยา ถูกเผยแพร่คลิปวิดีโอ รุมทำร้ายร่างกายผู้หญิงนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์ในอดีต ตนยังไม่ได้เห็นคลิปนี้ แต่เข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์ของว่าที่ผู้สมัครนายกฯ อบจ.พระนครศรีอยุธยา ในปัจจุบัน ต้องเรียกว่า เป็นเหตุการณ์ที่กระทำไปในนามส่วนตัว และเหตุเกิดก่อนที่จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล แม้ว่าจะมีสถานะเป็นสมาชิกพรรค แต่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องในแง่ของการลงรับสมัครเลือกตั้งนายกฯ อบจ.พระนครศรีอยุธยาในครั้งนี้ ซึ่งพรรคก็มีความชัดเจนว่า จะไม่ส่ง และพรรคก็ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย 

นายพิธา กล่าวเสริมว่า ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนอาญา ให้เขาได้พิสูจน์ตัวเอง.