นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากกรณีที่ Host Data Center ของระบบ Navitaire ซึ่งเป็นระบบที่หลายสายการบินทั่วโลกใช้ในการเช็กอินผู้โดยสารขัดข้อง ส่งผลให้สายการบินที่ใช้ระบบ อาทิ สายการบินไทยแอร์เอเชีย, ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์, เจ็ทสตาร์, อินดิโก และสกู๊ตไทเกอร์ เป็นต้น ไม่สามารถทำการเช็กอินผู้โดยสาร และสำรองที่นั่งได้  ทอท. ได้ประสานกับสายการบินให้ใช้ระบบ manual โดยวิธีให้พนักงานเป็นผู้กรอกเอกสาร ทำให้ต้องใช้เวลาในขั้นตอนนี้นานกว่าปกติ ส่งผลกระทบทำให้เกิดเที่ยวบินล่าช้า(ดีเลย์) ประมาณ 1-3 ชั่วโมง

นายกีรติ กล่าวต่อว่า ทางสายการบินยืนยันว่า จะไม่ยกเลิกเที่ยวบินของวันนี้(19 ก.ค.) แต่จะมีเที่ยวบินดีเลย์ ซึ่งสายการบินจะพยายามบริหารจัดการ และเร่งระบายผู้โดยสารของเที่ยวบินวันนี้ไม่ให้มีตกค้างที่สนามบิน โดยจะให้จบโดยเร็วภายใน 22.00-23.00 น.ของวันนี้ โดยสายการบินจะมีการเยียวยาผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบตามมาตรการของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันที่ 19 ก.ค. ถึงช่วงกลางคืนของวันที่ 19 ก.ค.67

ยืนยันว่าสายการบินอื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้ระบบ Navitaire ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์ระบบขัดข้องในครั้งนี้ ทั้งนี้ระบบเช็กอินมีหลายระบบ แล้วแต่การพิจารณาเลือกใช้ของสายการบิน อาทิ การบินไทย ใช้ระบบอะมาดิอุส เป็นต้น ขอให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางในทุกท่าอากาศยานของ ทอท. เผื่อเวลาการเดินทางอย่างน้อย 4 ชั่วโมง หากผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวก สามารถติดต่อสายการบิน เพื่อขอเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินได้ภายใน 7 วัน หรือขอรับการคืนเงินได้ ซึ่งทางสายการบินก็พร้อมมอบสิทธิให้ผู้โดยสาร

นายกีรติ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวส่งผลให้ระบบตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automatic channels) ไม่สามารถใช้งานได้ด้วย โดย ทอท. ได้ประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้จัดกำลังพลเต็มทุกช่องตรวจในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งที่ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่ง ทอท. ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สนามบินเข้าดำเนินการโดยให้ความสะดวกในเรื่องการดูแลผู้โดยสารผ่านการเช็กอินแบบ Manual ส่วนผู้โดยสารที่ได้ทำการเช็กอินล่วงหน้ามาก่อนแล้ว และไม่มีกระเป๋าสัมภาระโหลด สามารถใช้ระบบ Biometric ผ่านเข้าสู่จุดตรวจค้นได้เลย

 เหตุการณ์ระบบ navitaire ล่มเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย ซึ่งจากการประสานสนามบินที่มีความร่วมมือกัน(Sister Airport) ทั่วโลก ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ระบบล่มครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ซึ่งหลังจากนี้ ทอท. จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมการจัดฝึกซ้อมแผนฉุกเฉิน เพื่อรองรับเหตุการณ์ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของผู้โดยสาร พร้อมกันนี้ ทอท. จะเร่งประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

ด้านฝ่ายประชาสัมพันธ์ ทอท. แจ้งว่า มีสายการบินหลักที่ได้รับผลกระทบแล้ว ได้แก่ 1.Thai Air Asia (FD) 2.Scoot Tiger (TR) และสายการบินที่อาจได้รับผลกระทบ ได้แก่ 1.Air Asia Berhad (AK) 2.Philippines AirAsia (Z2) 3.Indonesia AirAsia (QZ) 4.Air Asia Berhad (AK) 5.Firefly Airlines (FY) 6.INDIGO AIRLINES (6E) 7. Jet Star Asia (3K) 8.CEBU PACIFIC AIR (5J) 9.GO AIRLINES (INDIA) PRIVATE LTD. (G8) 10.HONG KONG EXPRESS AIRWAYS (UO) 11.JETSTAR AIRWAYS PTY LIMITED (JQ) 12.SPICEJET LTD. (SG) 13.THAI AIRASIA X (XJ) และ 14.Norse Atlantic Airways (NO) รวมเป็น 16 สายการบิน