จากกรณี “น้องไนท์” อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ถูกครูที่โรงเรียนทำโทษให้วิ่งรอบสนาม 5 รอบ เพราะแต่งกายชุดลูกเสือมาโรงเรียน ติดเครื่องหมายไม่ครบ ก่อนเกิดอาการหายใจไม่ออก ต้องรีบนำส่งไปรักษาตัวที่คลินิกแพทย์ในพื้นที่ แต่กลับมีอาการหนักขึ้น จึงส่งไปตัวไปรักษาโรงพยาบาลกบินทร์บุรี กระทั่งได้เสียชีวิตช่วงกลางดึก ทางญาติได้นำร่างมาตั้งบำเพ็ญกุศล ศาลาการเปรียญ วัดโคกอุดม ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี เป็นเวลา 3 คืน จากนั้นจะมีการประชุมเพลิง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ครูทำโทษ ป.1 ติดเครื่องหมายชุดลูกเสือไม่ครบ สั่งวิ่งรอบสนามจนเสียชีวิต

ล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียน พบกับ ผอ. โดยกล่าวเปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้รับแจ้งจากครูประจำชั้นว่า น้องไนท์ นักเรียนชั้น ป.1 ได้เสียชีวิต มาจากที่ครู มีการสอนกิจกรรมลูกเสือวานนี้ (18 ก.ค.) ซึ่งได้มีการสำรวจเรื่องการแต่งกายของนักเรียน ปรากฏว่า น้องไนท์ ขาดอุปกรณ์บางอย่างในการแต่งลูกเสือ และได้มีการย้ำเตือนแล้วว่า ผู้ที่แต่งกายไม่ครบครูจะมีการทำโทษ โดยให้วิ่งรอบสนามโรงเรียน ซึ่งน้องไนท์ ก็วิ่งรอบสนามพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่ถูกทำโทษเหมือนกัน ทราบว่าครูได้สั่งให้วิ่ง 10 รอบ แต่น้องไนท์วิ่งได้ยังไม่ครบ 5 รอบ ก็มีการอ่อนเพลีย เหมือนกับจะเป็นลม เพื่อนๆ และคุณครูก็มาช่วยกันปฐมพยาบาล พร้อมกับได้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบ ขณะนี้ทางโรงเรียนจะหาข้อเท็จจริงทั้งหมด จะไม่ตัดภาระ และจะดูแลให้ดีที่สุด ตอนนี้ทราบว่าศพไปที่วัดแล้ว ได้ให้ครูไปที่วัดเคลียร์ทุกอย่าง พร้อมกับไปรับฟังทางผู้ปกครอง

ผอ.โรงเรียน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังวัดโคกอุดม สถานที่ตั้งศพน้องไนท์ ได้พบกับแม่ของน้องไนท์ โดยกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้า คุณครูประจำชั้นโทรฯ มาบอกว่าลูกอาเจียน และก็ปากซีด ก็ได้โทรฯ ให้พ่อรีบนำรถไปรับลูกที่โรงเรียน จากนั้นนำน้องส่ง รพ.กบินทร์บุรี และเสียชีวิตในเวลาเที่ยงคืน ส่วนทางโรงเรียนเพิ่งติดต่อมาเมื่อช่วงเช้า มาถามถึงอาการน้อง โดยพ่อน้องเป็นคนคุย และได้แจ้งคุณครูประจำชั้นไปแล้วว่าน้องเสียชีวิตแล้ว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทราบว่าน้องโดนทำโทษ เหตุแต่งกายชุดลูกเสือไม่ครบ เลยถูกทำโทษให้วิ่ง 5 รอบ ปกติน้องเป็นโรคหืดหอบ ก็ไปพ่นยาก็หายดีแล้ว ไม่หอบอะไรแล้ว

ส่วนพ่อของน้องไนท์ ซึ่งยืนดูร่างไร้วิญญาณของลูกชายด้วยน้ำตานองหน้า กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 09.00 น. ทางครูประจำชั้นได้โทรฯ มาหาแม่น้อง หลังจากนั้นตนได้ไปรับลูกที่หน้าโรงเรียน คุณครูบอกว่าจะนำน้องออกมาส่งให้ ตอนนั้นน้องบอกว่าไม่ไหว น้องเป็นคนพูดเอง น้องจะพูดเองเพราะน้องเป็นคนกล้าพูด ทางโรงเรียนน่าจะไม่รู้ว่าน้องมีโรคประจำตัว ถ้าถามว่าครูควรจะรู้ไหม น่าจะรู้ ควรจะคัดกรองดูว่าเด็กเขาไหวไหมกับกิจกรรมหนักขนาดนี้ ลูกชายถูกครูในโรงเรียนทำโทษให้วิ่งรอบสนามโรงเรียน จำนวน 5 รอบ สาเหตุเพราะน้องลืมอุปกรณ์แต่งกายวิชาลูกเสือไม่ครบ จนทำให้ลูกหายใจไม่ออก ทางครูประจำชั้นได้โทรฯ ให้แม่เด็กมารับกลับบ้าน แต่อาการทรุดลง แม่จึงพาส่ง รพ.กบินทร์บุรี เพราะลูกมีโรคประจำตัวอยู่คือเป็นโรคหอบ จนกระทั่งมาเสียชีวิตเมื่อกลางดึกของวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตนอยากฝากทางโรงเรียน ถือเป็นบทเรียน ควรที่จะสอบถามนักเรียนในโรงเรียนว่า เด็กแต่ละคนมีโรคประจำตัวอะไรบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในศาลาวัด กลุ่มคณะครูได้นำพวงหรีดมาเคารพศพน้องไนท์ โดยครูสาวประจำชั้นน้องไนท์ ได้ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ แต่ขอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังเพียงเท่านั้น ว่า ช่วงวันเกิดเหตุ เด็กแต่งตัวติดเครื่องหมายชุดลูกเสือไม่ครบ จึงได้ทำโทษลงไป ซึ่งระหว่างที่ทำโทษไปแล้ว ถึงได้รู้ว่าเด็กมีอาการผิดปกติ จึงทำการปฐมพยาบาล และติดต่อผู้ปกครองให้มารับตัวกลับบ้าน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับเด็กนักเรียน ซึ่งทางคณะครู รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนในฐานะที่เป็นคุณครูประจำชั้น ก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการแจ้งความดำเนินคดีนั้น ทางผู้ปกครองน้องไนท์ บอกว่า ยังทำอะไรไม่ถูก ขอปรึกษาหารือกันก่อน.