สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ แถลงต่อที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ที่เมืองมิลวอกี เมื่อวันพฤหัสบดี ตอบรับอย่างเป็นทางการ ต่อการเสนอชื่อของพรรครีพับลิกัน ให้อดีตผู้นำวัย 78 ปี เป็นตัวแทนสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ในวันที่ 5 พ.ย. นี้ โดยมีนายเจมส์ เดวิด แวนซ์ หรือ เจ.ดี. แวนซ์ วุฒิสมาชิกรัฐโอไฮโอ ลงสมัครคู่กัน ในฐานะรองประธานาธิบดี

ทรัมป์เกริ่นนำ ด้วยการกล่าวย้อนไปถึงเหตุการณ์วันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหูขวา จากความพยายามลอบสังหารของมือปืนวัย 20 ปี ระหว่างที่อดีตผู้นำสหรัฐกำลังปราศรัยอยู่บนเวที ที่เมืองบัตเลอร์ ในรัฐเพนซิลเวเนีย

นายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยา

หลังจากนั้น ทรัมป์ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ระหว่างเดือน ม.ค. 2559-ม.ค. 2563 กล่าวว่า หากชนะการเลือกตั้งแล้วกลับมาปฏิบัติหน้าที่ผู้นำประเทศอีกครั้ง เขาจะ “ฟื้นฟูสันติภาพ เสถียรภาพ และความรุ่งเรืองให้กลับคืนสู่โลกทั้งใบ” และ “การฟื้นฟูภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของสหรัฐ” ในฐานะ “อภิมหาอำนาจโลก” และยืนยันว่า พรมแดนทางตอนใต้ของประเทศ หมายถึงที่ติดกับเม็กซิโก จะปลอดภัยกว่านี้

ขณะเดียวกัน ทรัมป์กล่าวถึง “การจัดการพลวัตความขัดแย้ง” ไม่ว่าจะในตะวันออกกลาง ยุโรป และเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นคาบสมุทรเกาหลี ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ “และทุกพื้นที่ในเอเชีย” พร้อมทั้งกล่าวถึงแผนการก่อสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธไอเอิร์น โดม แบบเดียวกับอิสราเอล เพื่อคุ้มครองสหรัฐจากการโจมตีทางทหาร

นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวถึงสถานการณ์ผู้อพยพตามแนวชายแดนสหรัฐ ระหว่างการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ที่เมืองมิลวอกี ในรัฐวิสคอนซิน

อนึ่ง ผู้สันทัดกรณีโต้แย้งในเรื่องนี้ ว่าระบบไอเอิร์น โดม ป้องกันการโจมตีระยะใกล้เท่านั้น และ “ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง” หากต้องการใช้งานเพื่อป้องกันการโจมตีจากขีปนาวุธข้ามทวีป

นอกจากนี้ ทรัมป์กล่าวถึงนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งเคยพบกันอย่างเป็นทางการ ระหว่างทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ว่าโดยส่วนตัวเขาเชื่อมั่น ว่าอีกฝ่ายเฝ้ารอการกลับมาของเขา

อีกด้านหนึ่ง ผลสำรวจความคิดเห็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกัน จัดทำระหว่างวันที่ 16-18 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสร่วมกับสำนักวิจัยยูกอฟ ปรากฏว่า ทรัมป์มีคะแนนนิยมนำเหนือไบเดน 52-47% เพิ่มขึ้นจากการสำรวจเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นทรัมป์มีคะแนนนิยมนำเหนือไบเดน 50-48%.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES